การค้าชายแดนคึกคัก กรมศุลกากรเตรียมยกระดับด่านเชียงของ

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากรของไทย เปิดเผยว่า กรมศุลกากรจะเร่งปรับปรุงระบบเชื่อมโยงข้อมูลออนไลน์ร่วมกับหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตในการส่งออกและนำเข้าสินค้าให้ได้ 37 หน่วยงานภายในปีนี้ จากที่ทำได้แล้ว 11 หน่วยงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกสินค้ารองรับ AEC ในปี 2558 โดยด่านศุลกากรเชียงของ จ.เชียงราย จะกลายเป็นด่านศุลกากรที่สำคัญ เพราะมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนปีหน้า รวมถึงการสร้างรถไฟทั้งระบบรางคู่และความเร็วสูงเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ-หนองคาย และกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งจะทำให้สินค้าจากจีนทะลักเข้ามาในพื้นที่ด่านศุลกากรเชียงของมากขึ้น

นอกจากนี้ ไทยจะได้รับประโยชน์จากการที่รัฐบาลลาวให้สิทธิการเช่าพื้นที่บนเกาะดอนซาว ที่เป็นเกาะสันดอนที่ใหญ่ที่สุดในแม่น้ำโขงเป็นเวลา 99 ปี เพื่อสร้างเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งสนามบิน นิคมอุตสาหกรรม บ่อนคาสิโน ซึ่งหากสามารถพัฒนาเสร็จ มูลค่าการค้าขายจะเพิ่มสูงขึ้นมาก

สำหรับการค้าชายแดนไทย-พม่าในปีนี้แถบ อ.แม่สอด และ อ.แม่สายขยายตัวมากขึ้น หลังจากพม่าเริ่มเปิดประเทศ โดยในปี 2554 มีมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับพม่าอยู่ที่ 151,100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.9% ของมูลค่าการค้าชายแดนรวม ซึ่งสินค้าส่งออกและนำเข้าสำคัญ ได้ แก่ เชื้อเพลิงจากแร่ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ หัวเชื้อ ชา กาแฟ ยานยนต์และส่วนประกอบ โดยขณะนี้กรมศุลกากรได้จัดหาพื้นที่ในเขตจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อเปิดด่านถาวรเป็นการเปิดช่องทางเชื่อมต่อกับพม่าเพิ่มขึ้น

(ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ 5 มี.ค. 55 และ มติชน ฉบับวันที่ 6 มี.ค. 2555 – กรอบบ่าย)

บทวิเคราะห์

การที่กรมศุลกากรไทยเร่งปรับปรุงการเชื่อมโยงข้อมูลออนไลน์ด้านการส่งออกและนำเข้า เป็นความพยายามที่จะจัดตั้ง National Single Window หรือ ระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว ในระดับชาติ ซึ่งมีความสำคัญ เพราะจะเป็นพื้นฐานพัฒนาไปสู่การจัดตั้ง ASEAN Single Window หรือ ระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน อันจะช่วยลดขั้นตอนศุลกากรในกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้การค้าระหว่างกันมีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งจะสอดรับกับการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558