ตัวแทนจากประเทศต่างๆ ยกเว้นรัฐมนตรีคลังของเกาหลีใต้และจีน เข้าร่วมเวทีการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง อาเซียน+3 (AFMGM+3) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
ประเด็นหลักของการประชุมดังกล่าวอยู่ที่การหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของภูมิภาคอาเซียน+3 โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจของอาเซียนและกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกจากเติบโตขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้โดยได้รับแรงสนับสนุนจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์ภายในประเทศ สถาบันการเงิน ระบบการเงิน และนโยบายทางเศรษฐกิจที่เหมาะสม แม้จะต้องเผชิญความเสี่ยงจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน การขยายตัวของสินเชื่อ และความผัวผวนของเงินทุนโลกก็ตามที
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าของมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี หลังจากข้อตกลงเมื่อปีก่อนมีมติให้เพิ่มสัดส่วนเงินทุนเป็น 2.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการให้ความช่วยเหลือที่ไม่เชื่อมโยงกับเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือของ IMF และจัดตั้งกลไกให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ แต่ละประเทศจะดำเนินกระบวนการภายในประเทศเพื่อลงนามในความตกลงฉบับนี้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในสิ้นปี 2556
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้ยกระดับสํานักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO) ให้เป็นองค์การการเงินระหว่างประเทศในระดับเดียวกับ IMF ทั้งยังติดตามมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (ABMI) เพื่อพัฒนาตลาดพันธบัตรสกลุเงินท้องถิ่นของภูมิภาคอาเซียน+3 ให้มีประสิทธิภาพ สามารถเป็นแหล่งระดมเงินทุนและเป็นทางเลือกในการออมของภูมิภาคได้
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดให้การประชุมครั้งต่อไป จัดขึ้น ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน โดยมีประเทศพม่าและประเทศญี่ปุ่น ทำหน้าที่เป็นประธานร่วมกัน
แหล่งที่มา: globalpost.com reuters.com และ mcot.net
