เอกชนญี่ปุ่น-ลาวร่วมลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ สะหวัน-เซโน
เอกชนญี่ปุ่นและเอกชนลาวร่วมพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ สะหวัน-เซโน ในแขวงสะหวันนะเขต เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นให้ได้มากขึ้น
การร่วมทุนเพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจดังกล่าว เป็นข้อตกลง 3 ฝ่าย ระหว่างบริษัทเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ จำกัด ของญี่ปุ่น กับบริษัทน้ำทาก่อสร้างขัวทาง จำกัด (บริษัทน้ำทาก่อสร้างสะพาน-ผู้แปล) ของลาว และองค์การคุ้มครองเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน โดยได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นภายใต้ชื่อ บริษัทสะหวัน-ญี่ปุ่นร่วมพัฒนา จำกัด
บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะดำเนินการพัฒนาพื้นที่กว่า 220 เฮกตาร์ (1,375 ไร่) ในเขต B ของเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน ทั้งในด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น ซึ่งที่ผ่านมา มีบริษัทญี่ปุ่น 2 รายแล้วที่ได้เข้าไปลงทุนในเขตดังกล่าว ได้แก่ บริษัท Nikon ซึ่งเป็นผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปรายใหญ่ของโลก และบริษัท Log-Item จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการแปรรูปไม้และผลิตกระดาษ
นอกจากนี้บริษัทร่วมทุนสะหวัน-ญี่ปุ่นร่วมพัฒนา จำกัด ยังวางเป้าหมายที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาวให้ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้าอีกด้วย
นับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา ลาวได้สร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษและเศรษฐกิจเฉพาะแล้ว 10 แห่ง จากแผนที่ว่างไว้ว่าจะสร้างขึ้นไม่น้อยกว่า 20 แห่ง ภายในปี 2015
ที่มา : lao.voanews.com
ลาวจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองที่ดินและอาศัยในลาวได้อย่างถาวร
กระทรวงการต่างประเทศลาวรายงานว่า ทางการลาวพร้อมแล้วที่จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถอาศัยในลาวอย่างถาวรและชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตดังกล่าวก็มีสิทธิ์ซื้อที่ดินและสร้างบ้านเรือนหรืออาคารสำนักงานต่างๆ เป็นของตนเองได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ชาวต่างชาติที่มีสิทธิ์อาศัยในลาวได้อย่างถาวรและมีสิทธิ์ถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในลาวได้นั้น จะต้องลงทุนในลาวในมูลค่าการจนทะเบียนตั้งแต่ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป (ประมาณ 15 ล้านบาท) และดำเนินธุรกิจในลาวมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีติดต่อกัน อีกทั้งได้ชำระภาษีต่างๆ ตามกฎหมายลาวอย่างครบถ้วนเคร่งครัด
สำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้พักอาศัยในลาวได้อย่างถาวรแล้วนั้น มีสิทธิ์ที่จะซื้อและถือครองที่ดินในลาวเนื้อที่ไม่เกิน 800 ตารางเมตร (0.5 ไร่) ต่อราย อีกทั้งมีสิทธิ์เป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในที่ดินดังกล่าวอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางการลาวจะเป็นผู้กำหนดเขตพื้นที่สำหรับรองรับและการพิจารณาเพิกถอนสิทธิ์ดังกล่าว ถ้าหากตรวจพบว่าชาวต่างชาติได้ดำเนินการใดๆ ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญาที่เป็นการขัดต่อผลประโยชน์และบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของชาติ
แต่กระนั้นก็ดี แม้ในปัจจุบันชาวต่างชาติจะยังไม่มีสิทธิ์ครอบครองที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็พบว่า มีชาวต่างชาติที่ถือครองที่ดินในลาวในรูปแบบนอมินีเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง
ที่มา : lao.voanews.com
