home

ไปงานวิวาห์ถิ่นตากาล็อก

เมษายน 7, 2015
ไปงานวิวาห์ถิ่นตากาล็อก

เรื่องโดย อาชญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ

นกเหล็กนาม “เซบูแปซิฟิคแอร์ไลน์” ร่อนปีกลงจอดที่ท่าอากาศยาน “นินอยอาควิโน” ในกรุงมะนิลา หลังลอยลำบนอากาศจากเมืองไทยสู่ฟิลิปปินส์เป็นเวลากว่าสี่ชั่วโมง พลันความวิตกกังวลที่เกาะกุมหัวใจของผมได้ปลิดทิ้งลง

ผมไม่มีความสุขเลยตลอดเที่ยวบิน สภาพอากาศไม่ดีนัก นกเหล็กสั่นสะเทือนหลายหน ผมมิอาจข่มตาหลับลงได้ ตอนกัปตันออกมาเข้าห้องน้ำ เล่นเอาผมแทบสติแตก โดยสารภาพ อุบัติเหตุทางอากาศยานหลายกรณีในปี พ.ศ. 2557 ทำให้ผมเป็นโรคกลัวการนั่งเครื่องบิน หนำซ้ำ ก่อนการบินเที่ยวนี้ ยังมีข่าวคราวโศกนาฏกรรมเหนือทะเลชวา

ตีห้าของวันปีใหม่ในมะนิลา ฟ้ามืดครึ้ม ฝนโปรยปรายพอสมควร หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมตามระเบียบสนามบิน ผมเดินออกมาข้างนอก สูดอากาศจนเต็มอก

Mabuhay!!! ยิ้มอย่างปราศจากความครุ่นเครียด แม้ร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียระโหย  เสียงเรียกของคุณป้าชาวไทยที่มารับ พร้อมว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาว การมาฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรกของชีวิตในคราวนี้ มิใช่การเจาะจงมาเที่ยว หากผมมาร่วมในพิธีสมรส!

พี่เจมส์ ว่าที่เจ้าบ่าวฟิลิปิโนผู้เป็นสารถีควบรถพาผมตระเวนไปสู่เขตเรียกว่า “ปารันยาเก” อันเป็นเขตหนึ่งของกรุงมะนิลาที่ใกล้กับสนามบิน มิผิดแผกกับลาดกระบังของกรุงเทพมหานคร ในรถมีเสียงเจื้อยแจ้วของการผสมผสานทางภาษา ไทย อังกฤษ และตากาล็อก พี่กรีน ว่าที่เจ้าสาวเป็นชาวไทย และเป็นบุตรีของคุณป้าที่ผมรู้จัก

“ปารันยาเก” ยามเช้าตรู่เงียบสงัด ร้านรวงปิดกันหมด แต่สองข้างทางเกลื่อนด้วยข้าวของระเกะระกะ เมื่อคืนมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่นับถอยหลังสู่ปี ค.ศ. 2015 ผมฝากท้องมื้อเช้าไว้ที่ร้านขนมปังแห่งหนึ่ง ซึ่งบังเอิญเปิด พี่เจมส์ พี่กรีน และคุณป้า พาผมไปยังที่พัก ผมหลับยาวด้วยความเพลีย ตื่นมาอีกทีก็เที่ยงพอดี พี่เจมส์มารับไปห้างสรรพสินค้า “ปารันยาเก” ตื่นจากหลับใหลแล้ว จี๊ปนีย์วิ่งกันแน่นถนน และโหดระห่ำ   การจราจรติดขัด เสียงพูดตากาล็อกจ๊อกแจ๊กรอบทิศ นั่นล่ะ ผมตกอยู่กลางวงล้อมของวิถีฟิลิปปินส์เข้าเสียแล้ว

เย็นวันนั้น ผมไปเยือนสำนักงานของครอบครัวพี่เจมส์ เพราะตอนหัวค่ำ เราต้องไปโบสถ์ที่เกซอนซิตี้ ทางตอนเหนือของมะนิลา เพื่อทำการซักซ้อมพิธีวิวาห์ทางคริสตศาสนา ครอบครัวของพี่เจมส์ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดีด้วยธรรมเนียมแบบฟิลิปิโน รถตู้ของครอบครัวพี่เจมส์ แม้จะแน่นขนัดยัดทะนาน แต่ก็อบอุ่นและประทับใจ  ท่ามกลางลมแรงพัดโชย

เมื่อถึงเกซอนซิตี้ ผมพบกับโบสถ์อันใหญ่โตมโหฬาร ที่โบสถ์ไม่มีไม้กางเขน และพระเยซูเลย แต่มีภราดาบาทหลวง การสวดเพลง และไบเบิล ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจพิธีกรรมเท่าไหร่นัก เมื่อบาทหลวงหน้าตาคล้ายโจวเหวินฟะถามอะไรมา ผมก็พยักหน้า เยส ฟาเธอร์ อย่างเดียว คืนนั้น กว่าจะกลับถึงที่พักก็เที่ยงคืน

วันที่สองของลมหายใจในฟิลิปปินส์ ครอบครับของพี่เจมส์พาผมไปเที่ยวสันเขาตาไกไต ในเขตจังหวัดกาวีเต ทางใต้ของมะนิลา อันเป็นจังหวัดบ้านเกิดของเอมิเลียว อากีนันโด วีรบุรุษของชาติ จุดชมวิวพีเพิ้ล    ปาร์กบนสันเขาลมแรงมากจนตัวแทบปลิว หนาวสั่นฟันกระทบ มีคนมาท่องเที่ยวหนาแน่น จากคำบอกเล่าของชาวฟิลิปปิโน มีบ้านเก่าของนายมาร์กอสอยู่บนนี้ด้วย จากยอดเขาจะมองเห็นทะเลสาบตาอัลและภูเขาไฟกลางทะเลสาบ เป็นภูเขาไฟชนาดเล็กที่ยังคุอยู่ แต่ไม่มีวี่แวระเบิด พี่กรีน ว่าที่เจ้าสาวชาวไทย บอกว่า ถ้าจะนั่งเรือไปดูใกล้ๆ ต้องไปอีกเมือง  บนจุดชมวิวเต็มไปด้วยร้านรวง  สินค้าน่าสนใจคือ กระเป๋าหนังกบ เป็นรูปกบฉีกแขนขา ประดิษฐ์ขึ้นมาด้วยการจับกบภูเขาตัวใหญ่มากมาล้วงไส้ ตากให้แห้ง ติดซิปตรงคอมัน ในท้องมันทำเป็นกระเป๋าใส่สตางค์ แขวนขายอยู่หลายร้าน ลูกตากบก็ไม่ควัก เห็นแล้วสยองดี

ตอนขากลับ แวะกินข้าวเที่ยงที่ตลาด ครอบครัวพี่เจมส์พาไปกินเนื้อวัว ผมกินไม่ได้เท่าไหร่ เอาวัวมาชำแหละสดๆเลย พาดหนังไว้โชว์ด้วย กลิ่นคาวมาก จากนั้น ตอนบ่ายถึงเย็น ไปเที่ยวสวนสนุก มีชิงช้าสวรรค์คล้ายลอนดอนอายส์ คนเยอะมากเนื่องจากเป็นวันปีใหม่  ผมเลยคร้านรอเข้าแถวซื้อตั๋วขึ้นชิงช้า  ใกล้ค่ำ รถตู้แล่นกลับลงจากภูเขา แต่การจราจรติดขัดมาก เลยต้องลัดไปทางถนนชนบท มืดตึ๊ดตื๋อ  ปรากฏว่า หลงทางวกวนจนชวนให้หวามหวั่นขึ้นมาเหมือนกัน

ล่วงเข้าวันที่สาม ผมเดินทางเข้ากรุงมะนิลา ต้องวัดดวงกับแท็กซี่พอสมควร ผมไม่ค่อยรู้เรื่องสายรถจี๊ปนีย์ เลยไม่เสี่ยงนั่ง เดี๋ยวหลงทางแล้วจะไปกันใหญ่  ไม่ค่อยมีแท็กซี่คิดว่า ผมเป็นคนไทย ชาวฟิลิปปิโนนึกว่าผมเป็นคนมาเลย์หรืออินโดนีเซีย พอบอกว่าเป็นคนไทย เขาก็จะนึกว่า ไต้หวัน

ที่กรุงมะนิลา ผมไปเยือนโบราณสถานอินทรามูรอส เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์โฮเซ่ ริซาล ซึ่งจัดแสดงไว้ละเอียดมาก มีข้าวของที่เกี่ยวข้องกับริซาลแทบทุกอย่าง เครื่องมือผ่าตัด ภาพสเก็ตซ์ ลายมือ ต้นฉบับงานประพันธ์ จดหมายถึงเพื่อนหลายตน เสื่อที่สวมตอนถูกยิง และของอื่นๆอีกมากมาย ออกจากพิพิธภัณฑ์ก็ไปยืนสูดดมกลิ่นแม่น้ำปาสิกอันกว้างใหญ่  วันนั้น นับเป็นวันแต่งงานแห่งมะนิลา  เดินไปทางไหนก็พบเห็นคนแต่งงาน ทั้งที่มะนิลาคาธีครัล และโบสถ์ซานออกุสติน

มะนิลาเป็นเมืองที่มีย่านเจริญสลับกับย่านสลัม ซึ่งผมมีโอกาสเดินผ่านด้วย ทุกสายตาจับจ้องมาอย่างน่ากลัว แต่ก็เป็นการผจญภัยอย่างท้าทาย  ผมยังได้ไปที่ชมน้ำพุและอนุสาวรีย์วีรบุรษในริซาลปาร์ก ความยิ่งใหญ่ของริซาลตัดกับภาพเด็กที่นั่งขอทานอยู่ตามมุมในสวนนั้น นอกจากนี้ ผมยังได้ไปถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นควายหรือคาราบาวมาด้วย  อ่าวมะนิลายามเย็นช่างสวยงาม แสงแดดสีทองจับต้องผืนทะเลสีคราม ขากลับจากมะนิลา แท็กซี่ปล้นผมกลางแเดดตอนหัวค่ำ!

ในวันถัดมา ผมยังคงตระเวนกรุงมะนิลา โดยเริ่มต้นยามสายด้วยการทอดน่องในย่านมากาตี ที่นั่นพบนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่มากทีเดียว พอตกบ่าย ผมก็ออกตามรอยนักเขียนไทยที่ผมติดใจในสำนวนสะวิง นั่นคือ วิตต์ สุทธเสถียร ด้วยการเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยซานโตโทมัส อันเป็นสถานที่ที่วิตต์เคยมาศึกษาวิชาหนังสือพิมพ์ ประสบการณ์สำคัญในวันนั้น คือ ผมได้นั่งรถแท็กซี่ที่ขับซิ่งแหลกอย่างไม่แยแสสัญญาณไฟจราจรากลางกรุงมะนิลา ผมลอบดูป้ายชื่อคนขับร่างท้วมผิวคล้ำ เขาชื่อ เอดูอาร์โด้ บางทีนี่อาจเป็น Fast and Furious เวอร์ชั่นฟิลิปปินส์กระมัง

หลังกลับจากมะนิลา คืนนั้น ผมได้ไปรับประทานมื้อค่ำที่คฤหาสน์หลังงาม อันเป็นอัครสถานแห่งเศรษฐีประจำ “ปารันยาเก” ซึ่งเป็นพ่อทูนหัวและแม่ทูนหัวของพี่เจมส์ ว่าที่เจ้าบ่าว ภายในคฤหาสน์ประดับประดาอย่างสวยงาม โคมไฟห้อยระย้าส่องแสงระยิบระยับ ภาพศิลปะเลื่องชื่อขนาดใหญ่บนฝาผนังรอบด้าน  แทบไม่น่าเชื่อ สภาพตรงปากทางเข้าหมู่บ้านพลุกพล่านด้วยผู้คนซอมซ่อ แต่ลึกเข้ามาข้างในกลับเป็นวิมานของมหาเศรษฐี เจ้าของคฤหาสน์ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดีด้วยอาหารฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งยังชวนสนทนาด้วยน้ำมิตร

และแล้ววันสำคัญสำหรับจุดประสงค์ในการเดินทางสู่ฟิลิปปินส์ของผมก็มาถึง – วันวิวาห์ของพี่เจมส์กับพี่กรีน ผมเดินทางสู่เกซอนซิตี้ในตอนสาย  พิธีสมรสจะเริ่มขึ้นหลังเที่ยง  แทบไม่น่าเชื่อว่า ผมตกอยู่ในมนต์ขลังของพิธีกรรมทางคริสต์ศาสนาเป็นชั่วโมง ทั้งเพลงสวด การกล่าวถ้อยอันทรงพลังของบาทหลวง กระแสของความรักแสนหวานของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่แผ่ซ่านปกคลุมไปทั่วทั้งโบสถ์ หลังเสร็จสิ้น พิธีทางศาสนาที่โบสถ์ หัวค่ำ มีงานเลี้ยงที่ปารันยาเก ผมได้ร่วมในงานเลี้ยงด้วย แต่กลับมิได้อยู่จนงานเลิก เพราะต้องรีบเดินทางไปยังสนามบิน ถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับคืนสู่บ้านเกิดเมืองนอน แม้ว่า จะต้องรอเที่ยวบินเสียเวลากว่าชั่วโมง

นกเหล็กนาม “เซบูแปซิฟิคแอร์ไลน์” ผุดร่างด้วยความเร็วสูงขึ้นจากท่าอากาศยาน “นินอย อาควิโน” ขึ้นสู่ท้องฟ้ามืดครึ้ม ขณะเฉียงปีกข้างหนึ่งลงเพื่อความสมดุลของตัวลำตามหลักของแบร์นูลลี ผมมองเห็นกรุงมะนิลาอยู่ลิบๆ แสงไฟยังสว่างอย่างมิรู้หลับใหล

บนเครื่องบินลอยลำมุ่งหน้าสู่เมืองไทย ผมมัวแต่นึกถึงฟิลิปปินส์ที่ได้สัมผัสหลายวันที่ผ่านมา จนหลงลืมโรคกลัวการนั่งเครื่องบินของตัวเองเป็นปลิดทิ้ง!

Leave A Response

หมวดหมู่

'; collapsItems['collapsCat-51:3'] = '
    '; collapsItems['collapsCat-52:3'] = '
      '; collapsItems['collapsCat-85:3'] = '
        '; collapsItems['collapsCat-86:3'] = '
          '; collapsItems['collapsCat-87:3'] = '
            '; collapsItems['collapsCat-88:3'] = '
              '; collapsItems['collapsCat-94:3'] = '
                '; collapsItems['collapsCat-3:3'] = ''; collapsItems['collapsCat-25:3'] = '
                  '; collapsItems['collapsCat-33:3'] = '
                    '; collapsItems['collapsCat-34:3'] = '
                      '; collapsItems['collapsCat-35:3'] = '
                        '; collapsItems['collapsCat-36:3'] = '
                          '; collapsItems['collapsCat-37:3'] = '
                            '; collapsItems['collapsCat-38:3'] = '
                              '; collapsItems['collapsCat-39:3'] = '
                                '; collapsItems['collapsCat-40:3'] = '
                                  '; collapsItems['collapsCat-41:3'] = '
                                    '; collapsItems['collapsCat-42:3'] = '
                                      '; collapsItems['collapsCat-31:3'] = ''; collapsItems['collapsCat-29:3'] = '
                                        '; collapsItems['collapsCat-30:3'] = '
                                          '; collapsItems['collapsCat-48:3'] = '
                                            '; collapsItems['collapsCat-76:3'] = '
                                              '; collapsItems['collapsCat-32:3'] = ''; collapsItems['collapsCat-45:3'] = '
                                                '; collapsItems['collapsCat-46:3'] = '
                                                  '; collapsItems['collapsCat-47:3'] = '
                                                    '; collapsItems['collapsCat-43:3'] = ''; collapsItems['collapsCat-49:3'] = '
                                                      '; /* Collapse Functions, version 2.0 * *--------------------------------------------------------------------------*/ String.prototype.trim = function() { return this.replace(/^\s+|\s+$/g,""); } function createCookie(name,value,days) { if (days) { var date = new Date(); date.setTime(date.getTime()+(days*24*60*60*1000)); var expires = "; expires="+date.toGMTString(); } else { var expires = ""; } document.cookie = name+"="+value+expires+"; path=/"; } function readCookie(name) { var nameEQ = name + "="; var ca = document.cookie.split(';'); for(var i=0;i ', 'collapse', 0)// ]]>

                                                      คลังข้อมูล

                                                      พบกับเราที่ Facebook

                                                      Tweets ล่าสุด

                                                      ประชุมคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติอาเซียน ครั้งที่ 22 ประกาศรื้อการประชุมระดับรัฐมนตรี (AMMDM… http://t.co/WmWTAcz3Zb

                                                      อินโดนีเซีย (5-11 มิ.ย. 56): หน่วยต้านก่อการร้ายอินโดนีเซียถูกวิจารณ์ ทำเกินกว่าเหตุ หน่วยงาน… http://t.co/lapRxcLYyh

                                                      สิงคโปร์ (5-11 มิ.ย. 56): ชาวสิงคโปร์ประท้วงกฎหมายควบคุมเน็ต ชาวสิงคโปร์หลายร้อยคน รวมตัวกัน… http://t.co/txPGxhXgGd

                                                      ชาวสิงคโปร์ประท้วงกฎหมายควบคุมเน็ต: ชาวสิงคโปร์หลายร้อยคน รวมตัวกันประท้วงกฎหมายใหม่ของรัฐบาล… http://t.co/6ucq2Bwvs2

                                                      แผนที่อาเซียน