คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเสวนาในหัวข้อ “ฟิลิปปินส์หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2016” เพื่อวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และความท้าทายของฟิลิปปินส์หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา งานเสวนาจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2559 ณ ห้อง 202 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีวิทยากรร่วมเสวนา 2 ท่าน ท่านแรกคือ ผศ.ดร. กมลพร สอนศรี อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และอีกท่านคือ อาจารย์อัครพงษ์ ค่ำคูณ จากวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ โดยมี อาจารย์ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ
อาจารย์อัครพงษ์เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงผลการเลือกตั้ง โดยเป็นที่แน่นอนแล้วว่าโรดริโก ดูแตร์เต (Rodrigo Duterte) จะได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีคนถัดไป อย่างไรก็ตาม วาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์สามารถเป็นได้เพียงวาระเดียว นโยบายของประธานาธิบดีจึงเป็นประเด็นที่ควรให้ความสนใจ อาจารย์อัครพงษ์ชี้ให้เห็นว่า ดูแตร์เตมีการหาเสียงและนโยบายที่เอาใจคนทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการกระจายอำนาจด้วยการเสนอให้ทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญเปลี่ยนประเทศจากสาธารณรัฐเป็นสหพันธรัฐ เพื่อให้ท้องถิ่นมีอิสระในการบริหารจัดการและการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับการพัฒนาได้อย่างเพียงพอ
นโยบายดังกล่าวยังเป็นการเอาใจกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้อย่างกลุ่ม MILF อีกด้วย ดังนั้นเขาจึงได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนด้วย ขณะเดียวกัน แม้เขาไม่เห็นด้วยกับการทำแท้ง แต่ก็เห็นด้วยว่าควรจะแก้ไขที่ต้นกำเนิดของปัญหานั่นคือการคุมกำเนิด นอกจากนี้ ยังสนับสนุนกลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBT) ส่งเสริมการแก้ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดโดยวิธีการขึ้นเงินเดือนทหารตำรวจ การทำเขตเศรษฐกิจพิเศษให้ชาวต่างชาติมาลงทุนและสร้างงานให้คนฟิลิปปินส์เพื่อไม่ต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ในด้านนโยบายต่างประเทศก็เน้นเจรจาพื้นที่พิพาทเพื่อร่วมมือใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ขณะเดียวกัน การที่ดูแตร์เตสามารถครองใจชาวฟิลิปปินส์และได้รับเลือกตั้งมาเป็นประธานาธิบดีสะท้อนให้เห็นว่า คนฟิลิปปินส์เบื่อการเมืองแบบชนชั้นนำที่ตำแหน่งทางการเมืองถูกผูกขาดอยู่กับตระกูลนักการเมืองเก่าๆ ซึ่งดูแตร์เตสามารถจัดการกับความรู้สึกไม่พอใจของประชาชนที่อยู่กับระบบของชนชั้นนำเดิมได้
ด้าน ผศ.ดร.กมลพร กล่าวถึง บุคลิกท่าทางของผู้นำแบบดูแตร์เตว่าอาจทำให้เกิดการบริหารแบบเผด็จการ โดยพิจารณาได้จากผลงานในอดีตเมื่อครั้งที่เขายังเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาที่มักใช้ศาลเตี้ยประหารชีวิตคนร้าย นอกจากนี้ ประเด็นที่น่าสนใจตือการสานต่อนโยบายของผู้นำแต่ละคน โดยเฉพาะนโยบาย Ro-Ro System ซึ่งเป็นนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน อันเป็นการสานต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ให้เติบโตต่อไปได้
ส่วนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของดูแตร์เตเอง ให้ความสำคัญกับ 8 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นโยบาย PPP การสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนในฟิลิปปินส์ การพัฒนาเกษตรรายย่อย การปรับปรุงภาษีรายได้ การขยายและปรับปรุงการใช้เงินแบบมีเงื่อนไข การศึกษาขั้นพื้นฐาน
อาจารย์กมลพรเห็นว่า ความที่ดูแตร์เตเป็นคนมีพื้นฐานมาจากชนชั้นรากหญ้า ทำให้เขาได้รับคะแนนนิยมจากชนชั้นกลางค่อนล่างและชนชั้นรากหญ้า แต่ดูแตร์เตเองก็มีบุคคลเบื้องหลังที่สนับสนุนให้เขาประสบความสำเร็จในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี บุคคลสำคัญบางท่าน ได้แก่ Evasco เป็นผู้จัดการด้านการหาเสียง Carlos Dominguez เป็นนักธุรกิจผู้สนับสนุนทางด้านการเงิน ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง
', 0)// ]]>
