รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกประกาศว่าได้ปฏิเสธเงินช่วยเหลือรอบใหม่จากสหภาพยุโรป (EU) มูลค่าราว 250 ล้านยูโรหรือประมาณ 278.7 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการพัฒนาของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่มินดาเนา
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เตได้รับเงินช่วยเหลือการพัฒนามูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐจากจีน ในช่วงที่เขาเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 หรือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Summit)
นาย Salvador Medialdea เลขานุการบริหารจากทางการฟิลิปปินส์ ให้เหตุผลว่า การปฏิเสธรับเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป เป็นไปเพื่อปกป้องไม่ให้สหภาพยุโรป เข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน เพราะการบริหารงานในประเทศ ถือเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลเอง โดยไม่ขึ้นกับฝ่ายอื่นๆ
ขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า การออกมาแสดงจุดยืนของฟิลิปปินส์ น่าจะมาจากความไม่พอใจ หลังเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สหภาพยุโรปวิพากษ์วิจารณ์ เรื่อง การละเมิดสิทธิมนุษยชนในฟิลิปปินส์ หลังมีการการดำเนินนโยบายกวาดล้างยาเสพติด ของประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งทำให้มีผู้บริสุทธิ์ ตลอดจนผู้ที่ยังไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ความผิดของตน เสียชีวิตไปเป็นกว่า 8,000 คนแล้ว
โดยคำวิจารณ์นั้นพ่วงมาด้วยการเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์ ยุติการกวาดล้างยาเสพ ด้วยวิธีการที่โหดร้าย และเร่งปล่อยตัวนาย Leila de Lima สมาชิกวุฒิสภา และ นักวิจารณ์การเมืองในประเทศ เป็นการด่วน
นอกจากนี้ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า การที่รัฐบาลปฏิเสธรับเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการสันติภาพในมินดาเนาอีกด้วย
แหล่งที่มา philstar.com และ krobkruakao.com
