3 ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมลาดตระเวนทางอากาศ รับมือการเคลื่อนไหวของไอเอสแถบชายแดน
อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ภายในเดือนนี้จะใช้เครื่องบินสอดแนมและเครื่องบินไร้คนขับ หรือโดรน สกัดการเคลื่อนย้ายของสมาชิกกลุ่มติดอาวุธระหว่างช่องโหว่ตามแนวชายแดนที่ติดกันระหว่าง 3 ชาติในทะเลซูลู เพิ่มจากการลาดตระเวนทางทะเลร่วมกันที่มีอยู่เดิมซึ่งมีสิงคโปร์คอยให้ความช่วยเหลือ หลังกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ขยายขอบเขตการเคลื่อนไหวและแผ่อิทธิพลในภูมิภาคมากขึ้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ เรียกร้องให้มีความร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อตอบโต้ผลพวงที่จะตามมาจากการต่อสู้อันดุเดือดกับกลุ่มติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอสทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ที่สุดของภัยคุกคามจากกลุ่มสุดโต่งในการสร้างฐานที่มั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่าที่เคยมีมา
นายเล เลือง มินห์ เลขาธิการอาเซียน เปิดเผยในการประชุมด้านความมั่นคงประจำปีของภูมิภาคแชงกรี-ลา ไดอะล็อก ที่สิงคโปร์ ระบุว่า พรมแดนของอาเซียนในส่วนที่เปิดถูกกลุ่มก่อการร้ายใช้ประโยชน์ในการลำเลียงอาวุธและบุคลากร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านข่าวกรอง ระบุว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นักรบติดอาวุธสุดโต่งหลายสิบคนจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย ข้ามจากประเทศของตนเองไปยังเกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์อย่างสะดวก โดยใช้เส้นทางน้ำที่มักจะไม่มีกฎหมายควบคุมและเต็มไปด้วยปัญหาโจรสลัด
มินดาเนา เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและถือเป็นเกาะสำคัญของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีชาวแคทอลิกเป็นคนส่วนใหญ่
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ
Comments are closed.