สภาเวียดนามเสนอปรับปรุงปฏิรูประบบราชการ ลดขนาด-กระจายอำนาจ-เพิ่มประสิทธิภาพ
การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 4 สมัยที่ 14 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ศกนี้ รัฐสภาแห่งชาติของเวียดนามได้หารือเกี่ยวกับการปฏิบัตินโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการปรับปรุงกลไกสำนักงานภาครัฐในช่วงปี 2554-2559 โดยเสนอให้ปรับปรุงนโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการปรับปรุงหน่วยงานภาครัฐโดยลดขนาดลง ผลักดันการกระจายอำนาจ และเพิ่มประสิทธิภาพ
เนื่องจากกลไกการบริหารราชการเวียดนามในปัจจุบันยังไม่มีความกะทัดรัดและประสิทธิภาพในการดำเนินงานยังไม่สูงนัก และยังให้ความสนใจต่อการจัดทำกฎหมายเพื่อไม่ต้องเพิ่มตำแหน่งงานและผลักดันงานด้านการตรวจสอบ ทั้งนี้รัฐบาลต้องปรับปรุงกลไกราชการให้กะทัดรัด ผลักดันการกระจายอำนาจ ชี้ชัดถึงหน้าที่ บทบาท อำนาจและความรับผิดชอบ
สมาชิกรัฐสภาบางคนเสนอให้รัฐบาลดำเนินการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์โดยเร็วเพื่อส่งเสริมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับกลไกภาครัฐ น้อมรับความพึงพอใจของประชาชนมาเป็นผลประเมินประสิทธิภาพของการปรับปรุงระบบการบริหารราชการ รวมไปถึงข้อเสนอให้ต้องปรับปรุงโครงสร้างของหน่วยงานภาครัฐเพื่อลดภาระให้แก่งบประมาณและยุบสำนักงานที่ดำเนินงานไม่มีประสิทธิภาพ
แหล่งที่มา vovworld.vn
เวียดนามเตรียมใช้นโยบายอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
เวียดนามได้หันความสนใจมาพัฒนาคุณภาพและความยั่งยืน รวมถึงได้เล็กใช้นโยบายอุตสาหกรรมเทคโนโลยี 4.0 เพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษที่กฎหมายว่าด้วยการลงทุนจากต่างชาติได้ประกาศใช้ในเดือนธันวาคม 2530 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศก็ได้กลายเป็นภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม แม้ว่าจะนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ เช่น มลภาวะทางสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีขั้นต่ำ การถ่ายทอดเทคโนโลยีในระดับล่างๆ เป็นต้น
โดยนาย Đang Xuan Quang รองผู้อำนวยการหน่วยงานด้านการลงทุนจากต่างประเทศของเวียดนาม ระบุว่า เวียดนามจำเป็นต้องทบทวนการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพื่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ควรที่จะนำมาพิจารณาเพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ นอกจากนี้ การเลือกการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เวียดนามเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้มากขึ้น
เวียดนามควรจะเน้นไปที่การดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในภาคอุตสาหกรรมไฮเทคที่มีส่วนเพิ่มมูลค่า เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ อิเล็กทรอนิกส์ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) และปัญญาประดิษฐ์ การศึกษา R&D และด้านสุขภาพ
ขณะเดียวกัน เวียดนามก็ต้องมีนโยบายที่เน้นความรับผิดชอบของนักลงทุน ที่มีต่อเวียดนามโดยเฉพาะการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการส่งเสริมให้บริษัทท้องถิ่นเวียดนามได้เป็นซัพพลายเออร์ให้กับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนเพื่อเป็นการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าของโลก
แหล่งที่มา vietnamnews.vn