บรูไนจับมือไทยส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล
บรูไนและไทยได้ทำข้อเสนอโครงการร่วมกันเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลของแต่ละประเทศ บรูไนมองว่าไทยเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอุตสาหกรรมฮาลาล ในขณะที่บรูไนวางแผนจะพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลและส่งเสิรมมาตรฐานฮาลาล
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรพื้นฐานของบรูไน นาย YB Pehin Dato Hj Yahya ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นเวลาหกวันตั้งแต่วันที่ 20 -25 พฤษภาคม ได้เข้าพบกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยที่กรุงเทพฯ
รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยตั้งข้อสังเกตว่า ไทยและบรูไนฯ ควรร่วมมือกัน เพื่อใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลระหว่างกัน โดยบรูไนฯ สามารถใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปประเทศที่สามได้ และไทยจะถ่ายทอดความเชี่ยวชาญในด้านการเกษตรรวมทั้งการเลี้ยงไก่และการประมงให้แก่บรูไน
ทั้งนี้ ทางบรูไนจะนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทยมากขึ้น และกำลังพยายามเพิ่มผลผลิตข้าวพันธุ์พื้นเมือง “Laila” ของบรูไนเอง บรูไนต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการเทคโนโลยีการปลูกข้าวจากประเทศไทย
บรูไนเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่อันดับเก้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศในปีที่ผ่านมาประมาณ 269 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าที่ไทยส่งออกไปบรูไน ได้แก่ ข้าว หม้อแปลงและชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ซีเมนต์ เซรามิก และผลิตภัณฑ์ยาง ในขณะที่บรูไนส่งออกน้ำมันและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ แก่ประเทศไทย (แหล่งอ้างอิง : http://www.bt.com.bn )
วัฒนธรรมเป็นกุญแจสำคัญสู่การบรรลุประชาคมอาเซียน
นาย YB Pehin Dato Hj Hazair said ในที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนบวกสามด้านศิลปะและวัฒนธรรม ครั้งที่ 5 ที่จัดขึ้นในสิงคโปร์ในวันที่ 24-25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเยาวชนและกีฬากล่าวว่า วัฒนธรรมมีบทบาทสำคัญในการรวมประชาชนอาเซียนในด้านความร่วมมือเรื่องของการเอาใจใส่ดูแลซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า วัฒนธรรมนั้นเป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าเป็นแหล่งเพื่อเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน การขจัดความยากจน และช่วยให้ชุมชนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันโดยการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม เมื่อเปรียบกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจแล้ว แม้ว่าจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่อุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 9 ในแต่ละปี ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นที่สมาชิกอาเซียนควรที่จะประเมินและกำหนดแผนยุทธศาสตร์เพื่อให้มั่นใจว่าภาควัฒนธรรมจะยังคงนำไปสู่การเจริญเติบโตของภูมิภาคอาเซียนต่อไป ดังนั้นสมาชิอาเซียนควรใช้รักษาและประโยชน์จากกิจกรรมทางวัฒนธรรมเพื่อผลประโยชน์ทางด้านสุทรียศาสตร์และเศรษฐกิจแก่ประชากรอาเซียนเอง
ทั้งนี้ยังให้การสนับสนุนพิมพ์เขียวด้านสังคมวัฒนธรรมของประชาคมอาเซียน the ASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) Blueprint เพื่อมุ่งสร้าง ความสามัคคีผ่านความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพื่อให้มั่นใจว่าชุมชนอาเซียนจะยังคงอยู่รอดในระยะยาวซึ่งอาเซียนได้ยึดถือหลักการของ “เอกภาพในความหลากหลาย”
นอกจากนี้ยังได้นำมุมมองของบรูไนมาแลกเปลี่ยนมุมมอง โดยมองว่าวัฒนธรรมควรเติบโตควบคู่ไปกับเทคโนโลยี โดยบูรณาการความรู้ทางวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และจำเป็นที่จะต้องทำให้เยาวชนตระหนัก และซึมซับคุณค่าของวัฒนธรรมในชีวิตประจำวันของพวกเขา โดยกระทรวงวัฒนธรรมฯจะเร่งมือเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ
โอกาสนี้ นาย YB Pehin Dato Hj Hazair พร้อมด้วยรัฐมนตรีศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศอาเซียนอื่น ๆ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯท่าน ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ อีกด้วย (แหล่งอ้างอิง : http://www.bt.com.bn )
