นักฟุตบอลทีมชาติเวียดนามอาจตกงานหลัง Suzuki Cup
ความทุ่มเทของนักฟุตบอลทีมชาติเวียดนามในทัวร์นาเมนต์ AFF Suzuki Cup 2012 ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เมื่อผู้เล่นกว่าครึ่งทีมมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของสโมสรที่พวกเขาสังกัดอยู่
ในบริบทของความยากลำบากทางเศรษฐกิจ หลายสโมสรใน V-League ของเวียดนามกำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะล้มละลาย และกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เล่นที่กำลังตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อช่วยทีมชาติก็พบความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นผู้ว่างงานหลังจากที่พวกเขาเสร็จสิ้นภารกิจรับใช้ชาติ
Cong Vinh และ Thanh Luong สองนักเตะดาวดังของเวียดนาม เป็นผู้ที่อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากที่สุด และจนถึงขณะนี้ชะตากรรมของ Hanoi F.C. ทีมต้นสังกัดของทั้งสองก็ยังไม่แน่นอน โดยมีข่าวลือหนาหูว่าสโมสรกำลังจะล้มละลายในไม่ช้านี้ และหากสโมสรจะล้มละลายจริง Cong Vinh และ Thanh Luong อาจจะต้องตกงาน แถมยังอาจไม่สามารถหาสังกัดใหม่ได้ เพราะมีความเป็นไปได้ไม่มากนักที่จะมีสโมสรใดกล้าพอจะจ่ายค่าตัวหลายร้อยดอลลาร์เพื่อซื้อดาวดังทั้งสองไปร่วมทีม
นอกจาก Hanoi F.C. แล้วก็ยังมีอีกหลายสโมสรใน V-League ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ขาดสภาพคล่องทางการเงินเช่นกัน และสโมสรเหล่านี้ก็อาจจะต้องแก้ปัญหาโดยการลดจำนวนผู้เล่นในสังกัดเพื่อพยุงสถานะทางการเงินของสโมสร
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในวงการฟุตบอลเวียดนามชี้ว่า ปัญหานี้อาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลงานของทีมชาติเวียดนามตกรอบแรกในการแข่งขัน AFF Susuki Cup 2012 ที่จัดแข่งขันในไทยเมื่อต้นปลายเดือนที่ผ่านมา
แหล่งอ้างอิง : http://english.vietnamnet.vn
เวียดนาม ลาว กัมพูชา เร่งพัฒนาการค้าในพื้นที่สามเหลี่ยมการพัฒนา
การประชุมว่าด้วยการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวสามเหลี่ยมการพัฒนา กัมพูชา-ลาว-เวียดนาม ที่มีตัวแทนจากภาคธุรกิจจากทั้งสามประเทศเข้าร่วมกว่า 400 แห่ง ได้ถูกจัดขึ้นที่จังหวัดกอนตูม ของเวียดนามเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา
นาย Pham Thi Hong Thanh รองหัวหน้าฝ่ายการตลาดเอเชียแปซิฟิก กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามกล่าวในที่ประชุมว่า ปัญหาและอุปสรรคสำคัญของวงการธุรกิจของทั้งสามประเทศที่ต้องเผชิญในขณะนี้ ได้แก่ ปัญหาการขนส่ง ปัญหาความต้องการสินเชื่อ และปัญหาความต้องการของผู้บริโภคที่ยังต่ำอยู่ นอกจากนี้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานของหลายบริษัทในลาวก็เป็นอีกปัญหาหึ่งที่สำคัญเช่นกัน
สำหรับอุปสรรคในด้านการขนส่งนั้น แม้ทั้งสามประเทศจะร่วมพัฒนาเส้นทางที่ตัดตรงจากเมืองจำปาสักของลาว ผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชา และเข้าสู่นครโฮจิมินห์ทางตอนใต้ของเวียดนามเพื่อลดเวลาในการขนส่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การขนส่งโดยใช้เส้นทางดังกล่าวก็เป็นไปอย่าล่าช้า เนื่องจากเส้นทางยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเพียงพอ
โดยนาย Cao Viet Sinh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม กล่าวว่า ในอนาคตทางกระทรวงฯและหน่วยงานของทั้งสามประเทศต้องเร่งการก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวให้เสร็จสมบูรณ์ และเร่งดำเนินนโยบายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้เอื้อต่อการค้าและการลงทุนให้มากขึ้น เช่น กฎหมายการลงทุน กฎหมายธุรกิจ นโยบายที่เกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากร และการสร้างความมั่นใจในเรื่องความโปร่งใส ทั้งระดับกลางถึงระดับท้องถิ่น เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับนักลงทุนในการปรับปรุงการแข่งขันของวิสาหกิจ
อย่างไรก็ดี การค้าระหว่างเวียดนาม-ลาว และเวียดนาม-กัมพูชามีมูลค่ารวมกว่า 4,000ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้ โดยเวียดนามมีการลงทุนลาวกว่า 50 โครงการ คิดเป็นมูลค่ามูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และลงทุนกัมพูชา 25 โครงการคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สามเหลี่ยมการพัฒนา กัมพูชา-ลาว-เวียดนาม ประกอบด้วย 13 จังหวัดชายแดนของทั้งสามประเทศ ซึ่งริเริ่มโดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาในการประชุมเวียงจันทน์ในปี 2542 โดยมีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อเพิ่มความเป็นปึกแผ่นและการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงในภูมิภาค
แหล่งอ้างอิง : www.saigon-gpdaily.com.vn