home

Growing strategic rivalry among East Asia’s great powers: Implications for Southeast Asia and the South China Sea

มีนาคม 27, 2014
Growing strategic rivalry among East Asia’s great powers: Implications for Southeast Asia and the South China Sea

Growing strategic rivalry among East Asia’s great powers:
Implications for Southeast Asia and the South China Sea*
(การต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในหมู่มหาอำนาจเอเชียตะวันออก:
ผลกระทบต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทะเลจีนใต้)
โดย Aileen San Pablo-Baviera**

แปลและเรียบเรียงโดย
ภาคิน นิมมานนรวงศ์

เหตุการณ์ในระยะหลังในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้บ่งชี้ว่า สถานการณ์จะย่ำแย่ลงก่อนที่อะไร ๆ จะดีขึ้น เมื่อคำนึงถึงความขัดแย้งระหว่างจีนกับรัฐต่าง ๆ ในภูมิภาค เกี่ยวกับทรัพยากร ทั้งบนบกและทางทะเล

การประกาศเขตป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เหนือทะเลจีนตะวันออกของจีนเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งทับซ้อนเหนือพื้นที่เกาะเตียวหยู/เซ็นกากุ ที่จีนขัดแย้งกับญี่ปุ่น ได้สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และทำให้ทั้งสหรัฐและออสเตรเลียเดินหน้าท้าทายอำนาจของจีน ด้วยการส่งเครื่องบินบินผ่านเขตป้องกันภัยโดยไม่แจ้งให้จีนทราบ แม้จีนจะชี้ว่า นี่เป็นเพียงการป้องกันตัว และเป็นการตอบโต้ต่อคำขู่ของญี่ปุ่นที่จะยิงอากาศยานไร้คนขับที่บินเหนือน่านฟ้าญี่ปุ่น

ผู้สังเกตการณ์หลายคน รวมไปถึงนายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ และนายชัค ฮาเกลรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ต่างโจมตีการกระทำของจีนที่พยายามเปลี่ยนแปลงสถานภาพของภูมิภาค สำหรับประเทศมหาอำนาจ นี่คือการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการเป็นผู้นำของภูมิภาค การประกาศเขตป้องกันภัยทางอากาศฝ่ายเดียวของจีน จึงไม่ต่างอะไรกับการขยายความขัดแย้งด้านพรมแดน และสร้างข้อพิพาทระหว่างประเทศด้านเสรีภาพทางการบินขึ้นมา

อีกด้านหนึ่ง สหรัฐอเมริกามองว่าเสรีภาพด้านการเดินเรือเป็นผลประโยชน์หลักของตนในทะเลจีนใต้ และสิ่งนี้ได้รับการเน้นย้ำหลังจากเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม เรือของจีนแล่นเข้าใกล้เรือ USS Cowpens ของสหรัฐฯ ที่จีนกล่าวหาว่ากำลังสะกดรอยเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ของตนที่เพิ่งออกปฏิบัติการในทะเลจีนใต้ การกระทำครั้งนี้ถูกโจมตีโดยสหรัฐว่าเป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบ ปัญหาสำคัญอยู่ที่การตีความข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิของรัฐในการปฏิบัติการทางทหารในทะเล ซึ่งสหรัฐฯ กับจีนต่างดำเนินนโยบายที่ขัดแย้งกัน เหตุการณ์ครั้งนี้คืออีกหนึ่งตัวอย่างของแนวโน้มที่สองมหาอำนาจจะท้าทายปฏิบัติทางทหารของกันและกัน ซึ่งปัญหานี้จะแก้ไขได้ด้วยการหารือแบบทวิภาคีเท่านั้น

สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากจีนประกาศเขตป้องกันภัยทางอากาศในทะเลจีนตะวันออก ก็มีการคาดการณ์ว่าจีนจะกระทำอย่างเดียวกันในทะเลจีนใต้ด้วย นายหวู ฉื่อชวน (Wu Shicun) ประธานสถาบันแห่งชาติว่าด้วยทะเลจีนใต้ โต้แย้งว่า การประกาศเขตป้องกันภัยทางอากาศในทะเลจีนใต้เป็นไปไม่ได้ เหตุเพราะมันครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่าทะเลจีนตะวันออกมาก ซึ่งจีนยังขาดความพร้อมทางเทคนิคและทางกฎหมายในการรับมือกับเงื่อนไขดังกล่าว เขาโจมตีว่าสื่อตะวันตกนั้นไร้จรรยาบรรณ และพยายามแสวงประโยชน์จากการเล่นข่าวการประกาศเขตป้องกันภัยทางอากาศของจีน จุดยืนของเขาคือการยืนยันว่า จีนมีนโยบายที่แตกต่างกันในพื้นที่ทะเลจีนตะวันออกกับพื้นที่ทะเลจีนใต้

อย่างไรก็ดี ในปีนี้เอง จีนเพิ่งประกาศผลักดันนโยบายของสภาประชาชนไหหลำที่กำหนดให้ ชาวประมงจากต่างชาติ ที่ทำประมงบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์และพาราเซล ต้องขออนุญาตจากจีนก่อน จีนเคยประกาศนโยบายทำนองเดียวกันนี้มาแล้วในปี 2555 เมื่อยืนยันจะส่งเรือเข้าตรวจสอบเรือประมงจากต่างชาติ นางเจน ซากิ (Jen Psaki) โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า การเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนที่ต้องการจำกัดกิจกรรมการประมงของประเทศอื่น ๆ เป็นการกระทำที่ “ยั่วยุและอาจก่อให้เกิดอันตราย”

พิจารณาอย่างเป็นธรรม ข้อกำหนดจากนโยบายดังกล่าวแทบจะทำไม่ได้ในทางปฏิบัติหากคำนึงถึงความเสี่ยงที่มีกองกำลังทางทะเลของจีนและอีก 4 ชาติ กำลังปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และหากจีนใช้นโยบายดังกล่าวจริง ก็ย่อมถูกกล่าวหาว่าจงใจจะละเมิดต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) อีกด้วย ฟิลิปปินส์เองต้องการสกัดการกระทำดังกล่าวของจีน จึงได้ยืนฟ้องไปยังศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเล (ITLOS) ซึ่งหากจีนยังคงดึงดันจะจำกัดสิทธิการเดินเรือในพื้นที่ดังกล่าว ก็เท่ากับเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับข้อกล่าวหาของฟิลิปปินส์เอง

ฟิลิปปินส์ ซึ่งกำลังมุ่งเน้นการใช้ยุทธศาสตร์ทางกฎหมาย เลือกจะไม่ผลีผลามตอบโต้ และเรียกร้องให้จีนสร้างความกระจ่างให้กับนโยบายใหม่ดังกล่าว ขณะเดียวกัน ชาวประมงเวียดนามก็ยังคงทำประมงบริเวณหมู่เกาะพาราเซลต่อไป แม้จะมีรายงานว่า เจ้าหน้าจีนได้สั่งหยุดเรือประมงเวียดนามลำหนึ่งและยึดสัตว์ทะเลที่จับได้ไป

ในขณะที่วิวาทะเกี่ยวกับเขตป้องกันภัยทางอากาศกำลังขยายวงกว้าง ก็มีรายงานว่าจีนเตรียมจะรุกรานเกาะปักอาซา/จงเย่ (Pag-asa/Zhongye) ที่ฟิลิปปินส์ถือครองอยู่ หนังสือพิมพ์ China Daily Mail สรุปสถานการณ์นี้ และพาดหัวว่า “จีนและฟิลิปปินส์: เหตุผลว่าทำไมการชิงเกาะปักอาซา/จงเย่ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้” อย่างไรก็ดี ถึงตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่ารายงานดังกล่าวเป็นความจริงแต่อย่างใด

ภัยคุกคามต่อฟิลิปปินส์อาจเข้าใจได้ในบริบทที่คดีที่ฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องจีนเกี่ยวกับความถูกต้องทางกฎหมายของแผนที่เส้นประเก้าเส้น จะได้รับการไต่สวนเป็นครั้งแรก เป็นไปได้ว่าจีนจะเห็นว่า คดีนี้อาจมีผลต่อการทำลายความชอบธรรมของจีนเหนือทะเลจีนใต้ จึงอาจตัดสินใจละเมิดบรรทัดฐานระหว่างประเทศด้วยการประกาศสงคราม ทว่าสงครามนั้นหมายถึงผู้เสียชีวิต และทำลายความเชื่อมันระหว่างจีนกับอาเซียนอย่างไม่ต้องสงสัย ต้นทุนทางการเมืองที่จีนอาจสูญเสียจึงมากเกินไป จนกระทั่งผู้เชี่ยวชาญ เช่น คาร์ล เธเยอร์ (Carl Thayer) มองว่า รายงานฉบับนี้เป็นเพียงการ “วางโต” ของจีนเท่านั้น

การยืนยันอย่างหนักแน่นในอำนาจอธิปไตยและยกระดับผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของจีน ดูเหมือนจะมีเป้าหมายเพื่อให้รัฐต่าง ๆ ยอมรับว่า จีนคือมหาอำนาจในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ดี การรุกคืบของจีนในระยะหลังนี้จะทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับจากนานาประเทศจริงหรือเปล่า การกระทำเหล่านี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าจีนจะแสดงบทบาทผู้นำที่มีความรับผิดชอบ และคำนึงถึงความรู้สึกของประเทศเพื่อนบ้านและมหาอำนาจอื่น ๆ ได้หรือไม่ หรือการกระทำเช่นนี้ จะกลายเป็นการสร้างผลลัพธ์ที่จีนเองหวาดกลัวที่สุด นั่นคือ การขยายบทบาททางการทหารให้กับทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐฯ

แม้ผลลัพธ์ดังกล่าวอาจเป็นที่ยอมรับกันในหมู่ชาติอาเซียนบางประเทศ ทว่ามันไม่ได้มีผลดีต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ทั้งยังจะสร้างความถดถอยให้กับทศวรรษแห่งการสร้างสถาปัตยกรรมด้านความมั่นคงระดับภูมิภาค บนฐานของความร่วมมือด้านความมั่นคงและพหุภาคีที่ครอบคลุม ความเสี่ยงของการเผชิญหน้าทางทหารยังบ่อนทำลายความร่วมมือ ASEAN+3 ซึ่งจีนและญี่ปุ่นเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งยังทำลายการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก ซึ่งยังคงต้องเผชิญความท้าทายเกี่ยวกับการพัฒนาวิธีการในการสร้างความเป็นผู้นำเชิงยุทธศาสตร์ร่วมกันของภูมิภาค

อาเซียนเองไม่อาจเมินเฉยต่อพัฒนาการใหม่ ๆ เหล่านี้ และเพียงหมกตัวอยู่กับแผนการสร้างชุมชนระดับภูมิภาคของตัวเองได้ แรงผลักดันเพื่อการบูรณาการระดับภูมิภาคในปี 2015 จะไม่มีทางประสบความสำเร็จ หากการต่อสู้ระหว่างมหาอำนาจนำไปสู่ความแตกแยกและขัดแย้งในหมู่ประเทศสมาชิกอาเซียนเอง

ในทะเลจีนใต้ การปรึกษาหารืออย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อการสร้างหลักปฏิบัติที่มีผลทางกฎหมายอาจเหลวเปล่า หากสถานการณ์ลุกลามไปสู่การต่อสู้เพื่ออำนาจทางการทหารหรืออำนาจทางการปกครองเหนือพื้นที่ที่ขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในทะเลและบนอากาศ การทูตของประเทศระดับกลางจะลดความสำคัญลงไปเรื่อย ๆ หากกลไกอุตสาหกรรมทางการทหารมีบทบาทอย่างเต็มที่ และยิ่งจะอันตรายกว่าเดิมหากการสั่งสมอาวุธของมหาอำนาจจุดชนวนให้เกิดการเพิ่มงบประมาณทางทหารในหมู่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยังคงเผชิญความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่

การต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างมหาอำนาจรังแต่จะสร้างความยากลำบากให้แก่อาเซียนและรัฐสมาชิก กระนั้น คำถามที่ว่าอาเซียนจะทำอะไรและควรทำอะไรบ้าง ดูเป็นคำถามที่ยังไม่ได้ถูกถามอย่างจริงจัง

*แปลและเรียบเรียงจาก Aileen San Pablo-Baviera, “Growing strategic rivalry among East Asia’s great powers: Implications for Southeast Asia and the South China Sea”, Kyoto Review of Southeast Asia issue 15 (March 2014).

**Aileen San Pablo-Baviera เป็นอาจารย์ประจำศูนย์เอเชีย มหาวิทยาลัยแห่งชาติฟิลิปปินส์ และหัวหน้ากองบรรณาธิการวารสาร Asian Politics & Policy

Leave A Response

หมวดหมู่

'; collapsItems['collapsCat-33:3'] = '
    '; collapsItems['collapsCat-34:3'] = '
      '; collapsItems['collapsCat-35:3'] = '
        '; collapsItems['collapsCat-36:3'] = '
          '; collapsItems['collapsCat-37:3'] = '
            '; collapsItems['collapsCat-38:3'] = '
              '; collapsItems['collapsCat-39:3'] = '
                '; collapsItems['collapsCat-40:3'] = '
                  '; collapsItems['collapsCat-41:3'] = '
                    '; collapsItems['collapsCat-42:3'] = '
                      '; collapsItems['collapsCat-31:3'] = ''; collapsItems['collapsCat-29:3'] = '
                        '; collapsItems['collapsCat-30:3'] = '
                          '; collapsItems['collapsCat-48:3'] = '
                            '; collapsItems['collapsCat-32:3'] = ''; collapsItems['collapsCat-45:3'] = '
                              '; collapsItems['collapsCat-46:3'] = '
                                '; collapsItems['collapsCat-47:3'] = '
                                  '; collapsItems['collapsCat-43:3'] = ''; collapsItems['collapsCat-49:3'] = '
                                    '; collapsItems['collapsCat-50:3'] = '
                                      '; collapsItems['collapsCat-51:3'] = '
                                        '; collapsItems['collapsCat-52:3'] = '
                                          '; collapsItems['collapsCat-76:3'] = '
                                            '; collapsItems['collapsCat-85:3'] = '
                                              '; /* Collapse Functions, version 2.0 * *--------------------------------------------------------------------------*/ String.prototype.trim = function() { return this.replace(/^\s+|\s+$/g,""); } function createCookie(name,value,days) { if (days) { var date = new Date(); date.setTime(date.getTime()+(days*24*60*60*1000)); var expires = "; expires="+date.toGMTString(); } else { var expires = ""; } document.cookie = name+"="+value+expires+"; path=/"; } function readCookie(name) { var nameEQ = name + "="; var ca = document.cookie.split(';'); for(var i=0;i ', 'collapse', 0)// ]]>

                                              คลังข้อมูล

                                              พบกับเราที่ Facebook

                                              Tweets ล่าสุด

                                              ประชุมคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติอาเซียน ครั้งที่ 22 ประกาศรื้อการประชุมระดับรัฐมนตรี (AMMDM… http://t.co/WmWTAcz3Zb

                                              อินโดนีเซีย (5-11 มิ.ย. 56): หน่วยต้านก่อการร้ายอินโดนีเซียถูกวิจารณ์ ทำเกินกว่าเหตุ หน่วยงาน… http://t.co/lapRxcLYyh

                                              สิงคโปร์ (5-11 มิ.ย. 56): ชาวสิงคโปร์ประท้วงกฎหมายควบคุมเน็ต ชาวสิงคโปร์หลายร้อยคน รวมตัวกัน… http://t.co/txPGxhXgGd

                                              ชาวสิงคโปร์ประท้วงกฎหมายควบคุมเน็ต: ชาวสิงคโปร์หลายร้อยคน รวมตัวกันประท้วงกฎหมายใหม่ของรัฐบาล… http://t.co/6ucq2Bwvs2

                                              แผนที่อาเซียน