งานสัมมนาเรื่อง “Era of the AEC: Scenarios, Stakes and Strategies”

PN มีนาคม 31, 2015

งานสัมมนาเรื่อง “Era of the AEC: Scenarios, Stakes and Strategies”
วันอังคารที่ 31 มีนาคม 2558 เวลา 09.00-17.00 น.
ณ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ อะ รอยัล เมอริเดียน โฮเต็ล
(Plaza Athenee Bangkok – A Royal Meridien Hotel)

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 สำนักข่าว Nikkei Asian Review ของญี่ปุ่น ร่วมกับ สถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ (ISIS) แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สาขาวิชาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ โลจิสติกส์และการขนส่ง (IBLT) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานสัมมนาเรื่อง “Era of the AEC: Scenarios, Stakes and Strategies”ขึ้น โรงแรม พลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ อะ รอยัล เมอริเดียน โฮเต็ล โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียนเป็นองค์ปาฐกถากล่าวเปิดงานสัมมนา

ดร.สุรินทร์ได้ให้ความเห็นว่า การบูรณาการด้านเศรษฐกิจของอาเซียนจะเกิดขึ้นได้จริง ต้องอาศัยความร่วมมือและการลงทุนจากภาคเอกชนภายในภูมิภาคมากกว่าที่เป็นอยู่ เขาเห็นว่า ในปัจจุบัน เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนอาเซียนกำลังย้ายไปอยู่ในภูมิภาคเอเชียเหนือและเอเชียตะวันตกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสถานะดังกล่าวไม่เป็นผลดีต่อการบูรณาการของอาเซียนเอง อีกทั้งยังทำให้เศรษฐกิจของอาเซียนยากจะเทียบชั้นกับเศรษฐกิจของจีนและอินเดียได้

ในขณะที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ได้ร่วมมือกันกำจัดอุปสรรคทางการค้าการลงทุน ทั้งภาษีและอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี นักลงทุนและภาคเอกชนในอาเซียนเองต่างหากที่จะเป็นปัจจัยผลักดันหลักให้การบูรณาการเศรษฐกิจอาเซียนเกิดขึ้นได้จริง ดร.สุรินทร์เห็นว่า อัตราการลงทุนภายในระหว่างนักลงทุนจากประเทศอาเซียน ที่คิดเป็นร้อยละ 25 ของการลงทุนทั้งหมดในอาเซียน ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจของอาเซียนยั่งยืนในระยะยาว แม้กรอบความร่วมมือของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอาจจะสามารถดึงดูดนักลงทุนจากภายนอกมาได้มาก แต่การลงทุนของนักลงทุนภายในอาเซียนเองสำคัญยิ่ง ดร.สุรินทร์ได้เรียกร้องให้บริษัทสัญชาติอาเซียนขยายกิจการและสาขาของตนไปยังประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน เขายอมรับว่า ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานของชาติอาเซียนเองยังคงเป็น อุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ ด้วยเหตุนี้ การก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank) ที่ริเริ่มโดยจีน จึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของอาเซียนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกไปพร้อมๆ กัน.