เมื่อวันที่ 20-21 มีนาคมที่ผ่านมา อาเซียนได้จัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนครั้งที่ 19 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ที่ประชุมได้พิจารณาการดำเนินการกองทุนโครงสร้างพื้นฐานอาเซียน (AIIB) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินระดับภูมิภาคแห่งใหม่ที่ผลักดันโดยประเทศจีน โดยเน้นไปที่ประเด็นเงินทุนของกองทุนและการปล่อยกู้ให้แก่ชาติสมาชิกอาเซียน 2 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซียและเวียดนาม เป็นจำนวนเงินกว่า 165 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่ประชุมได้ติดตามผลการดำเนินบูรณาการสาขาการเงินการคลังตามแผนบูรณาการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พบว่าได้ดำเนินการตามเป้าหมายที่ร้อยละ 80 และเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันและความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ที่ประชุมจึงมีมติให้จัดประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน โดยเปลี่ยนชื่อการประชุมเป็น “การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน (ASEAN Finance Ministers and Central Bank Governors’ Meeting – AFMGM) โดยให้การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรก
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้นำเสนอรายงานเศรษฐกิจโดยสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ได้แก่ ธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย กองทุนการเงินระหว่างประเทศและสํานักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office – AMRO) ซึ่งพบว่า เศรษฐกิจอาเซียนยังคงแข็งแกร่ง มีการเติบโตสูงจากการใช้จ่ายภาคเอกชนและการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม อาเซียนต้องระวังความเสี่ยงจากภายนอกและความเปราะบางอันเป็นจุดอ่อนแต่ละประเทศด้วย
สุดท้าย การประชุมครั้งนี้มีการลงนามพิธีสาร 2 ฉบับได้แก่ พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินฉบับที่6 ภายใต้กรอบการตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน และพิธีสารว่าด้วยกรอบกฎหมายเพื่อดําเนินการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน (Protocol on the Legal Framework to Implement the ASEAN Single Window)
แหล่งที่มา: asean.org
