อินโดนีเซียหวังเข้าร่วม TPP
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย กล่าวระหว่างพบหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าอินโดนีเซียมีความสนใจที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) ที่สหรัฐและอีก 11 ประเทศบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายร่วมกันเมื่อต้นเดือนนี้
ประธานาธิบดีโอบามากล่าวเสริมว่าโดยส่วนตัวแล้วให้ความสำคัญกับอินโดนีเซียมาก เนื่องจากเป็นประเทศที่เคยอาศัยอยู่เมื่อครั้งเยาว์วัยนานถึง 5 ปี และเครือญาติหลายคนยังเป็นชาวอินโดนีเซียอีกด้วย รัฐบาลจึงต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลจาการ์ตา
ด้านนายไมเคิล โฟรแมน ผู้แทนด้านการเจรจาการค้าของสหรัฐ กล่าวว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแบ่งปันข้อมูลเรื่องทีพีพีเพิ่มเติมให้แก่อินโดนีเซีย เพื่อปูทางสู่การเจรจาอย่างเป็นทางการร่วมกันต่อไป
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐและอินโดนีเซียยังหารือกันในประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่รวมถึงการดับไฟป่าและแก้ไขปัญหาหมอกควันที่มีต้นตอจากในอินโดนีเซีย ที่ขยายวงกว้างไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่ง ตลอดจนการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กองทัพเรือของอินโดนีเซียด้วย ซึ่งโอบามาและวิโดโดออกแถลงการณ์ร่วมกัน เรียกร้องให้คู่กรณีทุกฝ่ายในทะเลจีนใต้หลีกเลี่ยงการยั่วยุต่อกัน โดยไม่ได้เป่ยถึงประเทศใดโดยตรง
แหล่งที่มา: bangkokbiznews.com
อินโดนีเซียล้มเหลวในการดับไฟป่าระยะแรก
ปฏิบัติการควบคุมไฟป่าบนเกาะสุมาตราและกาลิมันตันประสบความล้มเหลว เนื่องจากเพลิงลุกลามเป็นวงกว้างและมีจุดความร้อนมากกว่า 1,500 จุด และยังมีจุดความร้อนอีกหลายจุดที่ระบบตรวจจับของดาวเทียมไม่สามารถเข้าถึงได้
แม้จะได้รับความช่วยเหลือในเบื้องต้นจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย แต่ล่าสุดรัฐมนตรีประสานงานด้านการเมือง กฎหมาย และความมั่นคงของอินโดนีเซียออกมาเปิดเผยว่า อินโดนีเซียยังคงต้องการเครื่องบินบรรทุกน้ำที่อย่างน้อย 15 ลำ เพื่อดับไฟป่าทั้งหมด
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยป่าไม้ระหว่างประเทศอินโดนีเซีย คาดว่า หมอกควันพิษจะเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมหลายพื้นที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไม่สามารถควบคุมได้จนถึงช่วงต้นปีหน้า
แหล่งที่มา: Thai PBS และ thejakartapost.com
อินโดนีเซียส่งกองกำลังควบคุมความขัดแย้งในอาเจะห์
ทางการอินโดนีเซียส่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์ในจังหวัดอาเจะห์ หลังเกิดการปะทะระหว่างฝูงชนสองกลุ่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายและโบสถ์คริสต์ถูกเผาทำลายหลายแห่ง
เอกุส ริยันโต (Agus Rianto) โฆษกตำรวจอินโดนีเซียเปิดเผยว่า สถานการณ์ความรุนแรงได้ยุติลงแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ปลุกระดมมวลชนในครั้งนี้ได้ 10 คน ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ปฏิเสธรายงานที่ระบุว่าประชาชนพื้นที่ได้เดินทางหนีออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียง
คาดการณ์กันว่าเหตุรุนแรงครั้งนี้น่าจะมาจากความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างชาวมุสลิมกับชาวคริสต์ เนื่องจากจังหวัดอาเจะห์ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่ประชาชนเคร่งศาสนามาก นอกจากนี้ ยังเป็นจังหวัดที่ปกครองภายใต้กฎหมายชารีอะห์อีกด้วย
แหล่งที่มา: channelnewsasia.com