ญี่ปุ่นเสนอเงินกู้ให้ฟิลิปปินส์ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างทางรถไฟ
ญี่ปุ่นเสนอให้เงินกู้ 2,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 72,000 ล้านบาท) สร้างทางรถไฟสายมะนิลา-บูลาคัน พร้อมทั้งบริจาคเงินหนุนโครงการพัฒนาการเกษตรที่เกาะมินดาเนาและให้เปล่าเรือตรวจการณ์ชายฝั่งทะเลแก่ฟิลิปปินส์
รายงานข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฟิลิปปินส์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเสนอเงินกู้และความช่วยเหลือให้แก่ประเทศฟิลิปปินส์ระหว่างการพบปะกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์นายอาคีโนในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกที่กรุงมะนิลาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเสนอเงินช่วยเหลือ121.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,388 ล้านบาท) เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาการเกษตรที่เกาะมินดาเนา ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรเป็นชาวมุสลิมที่มีฐานะยากจน
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังรับปากพิจารณาการขอบริจาคเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ให้กับฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือทางด้านอุปกรณ์ทางทหารกับประเทศอื่นและเป็นการแสดงการสนับสนุนทางการเมืองฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นประเทศที่มีความขัดแย้งกับจีนในเขตแดนทางทะเลมากที่สุด
แหล่งที่มา thansettakij.com
ไต้ฝุ่นเมอโลร์ถล่มฟิลิปปินส์ทางตอนกลางของประเทศ ทางการมะนิลาเตือนภัยระดับสีเหลือง
ชาวฟิลิปปินส์หลายล้านคนต้องเผชิญกับภัยพิบัติพายุไต้ฝุ่นเมอโลร์หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า โนนา (Nona) ส่งผลให้ฝนตกอย่างหนักและมีลมกรรโชกแรง ทางการนครมะนิลาได้ออกประกาศเตือนภัยเมื่อบ่ายวันที่ 14 ธันวาคมว่า มีความเสี่ยงระดับสีเหลือง
อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นกำลังแรง เมอโลร์ ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งและมุ่งหน้าผ่านภาคกลางของฟิลิปปินส์ เมื่อคืนวันที่ 14 ธันวาคม ว่า ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ประชาชนหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย ขณะที่ชาวฟิลิปปินส์กว่า 7 แสนคน ยังคงพักค้างคืนอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังต้องอพยพจากบ้านเรือนเพื่อหนีภัยพายุ
เจ้าหน้าที่รายงานว่า พายุไต้ฝุ่นเมอโลร์มีความเร็วลม 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและมีความเร็วลมที่จุดศูนย์กลาง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันออกไปทางตะวันตก
แหล่งที่มา philstar.com และ thairath.co.th
ศาลฎีกาฟิลิปปินส์เลื่อนการพิจารณาตัดสินคดีข้อตกลงทางการทหารกับสหรัฐฯ
ศาลฎีกาของฟิลิปปินส์ (Supreme Court) เลื่อนการพิจารณาตัดสินคดีความชอบด้วยกฎหมายของข้อตกลงว่าด้วยความมั่นคงใหม่ระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ เป็นครั้งที่สอง หลังจากมีข้อสงสัยเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการตกลงที่จะให้กองกำลังสหรัฐเข้าถึงฐานทัพฟิลิปปินส์
รัฐบาลฟิลิปปินส์เห็นความสำคัญของข้อตกลงนี้ ทั้งยังมีความแข็งขันในการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ในห้วงสภาวะที่ฟิลิปปินส์เผชิญหน้ากับจีนในประเด็นทะเลจีนใต้ และสหรัฐฯ ก็ดำเนินนโยบายหันกลับมาสู่เอเชีย (“pivot” back to Asia)
ทว่า นักการเมืองฝ่ายซ้ายของฟิลิปปินส์ได้ต่อต้านข้อตกลงทางการทหารฉบับนี้ในประเด็นว่าด้วยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทำให้ข้อตกลงทางการทหารต้องกลับไปสู่การพิจารณาของศาลฎีกา
เมื่อเดือนก่อน หลังจากที่ศาลฎีกาฟิลิปปินส์มีความล้มเหลวในการพิจารณาคดีนั้น คาดกันว่า ผู้พิพากษาของศาลฎีกาทั้ง 15 คนมีแนวโน้มจะทำให้ข้อตกลงทางทหารนั้นมีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ทางด้านโฆษกของศาลฎีกาได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของศาลได้ออกมาปฏิเสธว่า มีผู้พิพากษาบางคนขอให้มีเวลามากขึ้นในการพิจารณาความเห็นของผู้ที่อ้างว่า ข้อตกลงจะต้องได้รับการอนุมัติจากสมาชิกวุฒิสภาเพราะเป็นสนธิสัญญา ไม่ใช่ข้อตกลงของฝ่ายบริหาร ทั้งนี้ ศาลจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 12 มกราคมปีหน้า
แหล่งที่มา reuters.com