มาเลเซียระดมกำลังทหาร ตำรวจ ตรวจตราแหล่งท่องเที่ยว หวั่นเหตุก่อการร้าย
นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสนธิกำลังตรวจตรายังสถานที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ในประเทศ หวั่นอาจเกิดเหตุการก่อการร้ายซ้ำรอยกับที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน
นายนาจิบเปิดเผยหลังเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อวันอังคารที่ 19 มกราคมว่า มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังมีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเป็นมือระเบิดพลีชีพได้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนักและขอให้ทุกคนใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
ที่ผ่านมา ทางการมาเลเซียสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (IS) ได้ราว 100 คน ขณะเดียวกัน มีรายงานผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวมาเลเซีย ซึ่งบ่งชี้ว่า ชาวมาเลเซียร้อยละ 10 มีแนวโน้มเห็นใจกลุ่ม IS
แหล่งที่มา: channelnewsasia.com
นักวิจัยชี้การทำลายป่าในมาเลเซียมีส่วนกับการระบาดของเชื้อมาลาเรียจากสัตว์ป่าสู่คน
ทีมนักวิจัยจากอังกฤษลงพื้นที่ศึกษาการแพร่ระบาดของเชื้อมาลาเรียในพื้นที่ 3,000 กิโลเมตรของรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย พบว่าการทำลายป่าเพื่อการเกษตรมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการระบาดของเชื้อมาลาเรียชนิดที่แพร่จากสัตว์ป่าสู่คนได้
ศาสตราจารย์คริส เดรเคอลีย์ (Chris Drakeley) หนึ่งในทีมนักวิจัยกล่าวว่า เชื้อมาลาเรียสายพันธุ์ดังกล่าวมีชื่อว่า Plasmodium knowlesi เป็นเชื้อมาลาเรียชนิดที่ติดต่อจากลิงป่ามาสู่คน เขาตั้งข้อสังเกตว่าชาวมาเลเซียที่ติดเชื้อชนิดนี้เข้าไปในพื้นที่ป่าที่ลิงและยุงที่เป็นพาหะอาศัยอยู่ ทั้งนี้ ชาวบ้านท้องถิ่นจำนวนมากรับจ้างแผ้วถางป่าเพื่อขยายพื้นที่ทำการเกษตร
เชื้อมาลาเรียสายพันธุ์นี้สามารถขยายจำนวนได้อย่างรวดเร็วในกระเเสเลือดของคน ซึ่งหมายความว่าผู้ติดเชื้อจะมีอาการป่วยรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏว่าเชื้อมาลาเรียสายพันธุ์นี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้
แหล่งที่มา: voathai.com
อัยการสูงสุดมาเลเซียชี้ไม่มีหลักฐานเอาผิดนายนาจิบ ราซัค กรณีกล่าวหายักยอกเงินกองทุน 1MDB
นายอาปันดี อาลี (Apandi Ali) อัยการสูงสุดมาเลเซียแถลงว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอจะเอาผิดนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ตามข้อกล่าวหาว่าเขายักยอกเงินจากกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจของมาเลเซีย หรือ 1MDB จำนวนกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าบัญชีของตัวเอง
นายอาปันดีกล่าวว่าหลักฐานที่ได้จากพยานและเอกสารของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นมาเลเซีย (MACC) แสดงให้เห็นว่าเงินมูลค่า 681 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบระหว่างวันที่ 22 มีนาคม 2556 ถึง 10 เมษายน 2556 เป็นเงินบริจาคของสมาชิกราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียให้นายนาจิบเป็นการส่วนตัว
นอกจากนี้ เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่แสดงให้เห็นว่าเงินบริจาคดังกล่าวเป็นการให้อามิสสินจ้างหรือเป็นเงินรางวัลที่นายนาจิบได้รับจากการทุจริต อีกทั้งนายนาจิบได้คืนเงิน 620 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับสมาชิกราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556 แล้ว
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของอัยการสูงสดคนใหม่ยังคงสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับนักวิเคราะห์และผู้ติดตามข่าวเรื่องนี้จำนวนมาก เนื่องจากที่ผ่านมา นายนาจิบได้ใช้อำนาจสั่งปลดนักการเมืองบางคน รวมถึงอัยการสูงสุดคนก่อน ซึ่งต่างพยายามขุดคุ้ยหาความจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
ขณะเดียวกัน คำชี้แจงของอัยการสูงสุดยังนำมาซึ่งคำถามหลายประการ อาทิ เหตุใดสมาชิกราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียจึงต้องโอนเงินจำนวนมหาศาลเข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ และเงินส่วนต่างที่เหลือที่นายนาจิบไม่ได้คืนกลับไปถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง
ล่าสุด นายอาบู ทาลิบ (Abu Talib) อดีตอัยการสูงสุดที่ถูกนายนาจิบปลดออกจากตำแหน่งได้ออกมาให้ความเห็นว่า นายอาปันดีไม่มีสิทธิสั่งให้คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตยุติการสอบสวนในเรื่องนี้ เขาเห็นว่าหน้าที่ในการตัดสินว่านายนาจิบเป็นผู้บริสุทธิ์จริงหรือไม่เป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการเท่านั้น นอกจากนี้ เขายังวิจารณ์บทบาทของนายอาปันดีว่าไม่ให้ความช่วยเหลือคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตในการสืบหาหลักฐานในคดีนี้เท่าที่ควร
แหล่งที่มา: freemalaysiatoday.com cnbc.com และ prachatai.org