เมียนมาเลือกประธานาธิบดี 17 มีนาคม
นายมาน วิน ไข่ ตาน ประธานสภาผู้แทนราษฎรร่วมของเมียนมาแถลงว่า รัฐสภาเมียนมาจะเริ่มเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 17 มีนาคม ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 เมษายน ขณะที่กองทัพปฏิเสธกระแสข่าวการเจรจาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้นางอองซาน ซูจี ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่
ก่อนหน้านี้ สมาชิกอาวุโสของพรรคสันนิบาตแห่งชาตเพื่อประชาธิปไตย (NLD) บอกกับสื่อว่า รัฐสภาจะประชุมเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนกุมภาพันธ์ โดยพรรค NLD ครองที่นั่งในสภาประมาณร้อยละ 80 มากพอจะผลักดันประธานาธิบดีที่ทางพรรคหมายตาไว้
ด้านพลจัตวาติน ซาน หน่าย โฆษกกลุ่ม ส.ส.ทหาร ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่ากองทัพและพรรค NLD กำลังหารือเรื่องระงับการใช้มาตรา 59 (F) ที่ห้ามผู้มีบุตรและคู่สมรสเป็นชาวต่างชาติดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และได้หารือในรัฐสภาไปแล้วว่าไม่สามารถระงับการใช้มาตรานี้ได้เพราะจะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยมาตรานี้ถูกบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญโดยมีเจตนาเพื่อปกป้องประชาชนไม่ให้ถูกต่างชาติรุกรานและการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากกองทัพเท่านั้น
รัฐธรรมนูญเมียนมาฉบับปัจจุบันที่ร่างขึ้นในสมัยรัฐบาลทหารกำหนดขั้นตอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีไว้ว่า ให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเสนอชื่อสภาละ 1 คน กลุ่ม ส.ส.ทหารซึ่งมีที่นั่งในสภาร้อยละ 25 เสนอชื่ออีก 1 คน จากนั้นให้ทั้งสองสภาเปิดประชุมร่วมเพื่อเลือกประธานาธิบดีที่มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับเลือก 2 คน ให้เป็นรองประธานาธิบดี
แหล่งที่มา: bangkokbiznews.com
รัฐสภาเมียนมาอนุมัติกฎหมายถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติฉบับใหม่ ซึ่งอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อคอนโดมิเนียมในเมียนมาได้ไม่เกินร้อยละ 40 ของห้องชุดทั้งหมดในอาคาร เเละห้องชุดในอาคารนั้นจะต้องอยู่ในคอนโดมิเนียมที่มีความสูง 6 ชั้นขึ้นไป เเละมีพื้นที่รวมกันมากกว่า 20,000 ตารางฟุตเท่านั้น
กระทรวงการก่อสร้างของเมียนมาร์เตรียมกำหนดมาตรฐานการสาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย เเละพื้นที่ที่จอดรถที่สอดคล้องกับหลักสากลอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ถือครองคอนโดมิเนียมชาวต่างชาติจะสามารถครอบครองอาคารเเละที่ดินบริเวณที่ตั้ง อีกทั้งยังสามารถลงทุนในธุรกิจคอนโดมิเนียมได้ เเต่ไม่มีสิทธิ์บริหารโครงการได้
กฎหมายฉบับดังกล่าวเเสดงให้เห็นว่า เมียนมาเริ่มเปิดกว้างต่อการครอบครองทรัพย์สินมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ หลังจากที่นักลงทุนต่างมองว่ากฎหมายที่ไม่เปิดกว้างของเมียนมาทำให้การลงทุนมีความเสี่ยงสูงเเละไม่เเน่นอน ในขณะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในนครย่างกุ้งก็มีราคาสูงมากขึ้นทุกปี
แหล่งที่มา: prachachat.net
เมียนมาประกาศหลักเกณฑ์ EIA ใหม่
กระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและป่าไม้ของเมียนมาประกาศวิธีการวิเคราะห์และทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) สำหรับโครงการลงทุนในประเทศ พร้อมกับออกแนวปล่อยก๊าซใหม่
ระเบียบวิธีการประเมินและทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ใหม่ที่ประกาศในวันที่ 14 มกราคมที่กรุงเนปิดอว์ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมียนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยเป็นระเบียบที่จัดทำขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารพัฒนาเอเชียและมีพื้นฐานจากแนวทางของบริษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) โดยมีการปรับให้เหมาะกับประเทศเมียนมาโดยเฉพาะ พร้อมกับได้ออกประกาศแนวปล่อยก๊าซใหม่ให้สอดคล้องกับกฎ EIA ซึ่งจะต้องมีการประเมินผลกระทบต่ออากาศด้วย
นอกจากแนวทางจากนานาชาติแล้วที่ใช้ในการทำระเบียบใหม่นี้แล้ว รัฐบาลเมียนมายังได้นำแบบอย่างจากประเทศเพื่อนบ้านมาปรับใช้ด้วยเพื่อให้เหมาะกับประเทศมากที่สุด
นายเท็ต เทน ซิน (Thet Then Zin) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและป่าไม้กล่าวว่า กฎ EIA ใหม่จะช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องมองเห็นผลกระทบของการลงทุนต่างๆ ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยการบังคับใช้ EIA จะเหมือนกับที่มีการบังคับใช้กันอยู่ในประเทศสมาชิกอาเซียน และจากมาตราการดังกล่าวจะทำให้เมียนมามีควาามสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและสิงแวดล้อม
ทั้งนี้ ภายใต้กฎ EIA ใหม่นักลงทุนจะต้องเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการต่อสาธารณะแบบเรียลไทม์ โดยมีกฎให้ผู้ลงทุนต้องติดตามความก้าวหน้าของโครงการและรายงานให้แก่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหากนักลงทุนฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎใหม่ในเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลจะโดนลงโทษปรับคิดเป็นเงินดอลลาร์ตั้งแต่ 1,000-5,000 ดอลลาร์ (36,000-180,000 บาท) โดยจ่ายเป็นเงินจ๊าตในมูลค่าเดียวกันกับดอลลาร์
แหล่งที่มา: thansettakij.com