ธนาคารโลกยกระดับเวียดนามเป็นชาติรายได้ปานกลางระดับสูง
ธนาคารโลกเผยแพร่รายงานแนะแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจแก่เวียดนามก่อนถึงปี 2578 ในหัวข้อ “สู่ความมั่งคั่ง สร้างสรรค์ เท่าเทียม และประชาธิปไตย” เพื่อเสนอให้เวียดนามเน้นสนับสนุนการแข่งขันของภาคเอกชน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสังคม และเพิ่มประสิทธิผลการดำเนินงานของภาครัฐ เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศก้าวหน้าไปอีกระดับหนึ่ง ตลอดจนการยกระดับสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับกลางถึงสูงภายในปี 2578
แนวทางนี้เน้นย้ำว่าหากไม่มีการดำเนินการดังกล่าวเวียดนามจะติดกับดักการเป็นประเทศรายได้ระดับปานกลางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประธานธนาคารโลก นายจิม ยอง คิมกล่าวว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เวียดนามเป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จของการพัฒนาจากประเทศยากจนที่สุด นายคิมยังแนะว่า การที่เวียดนามจะไปสู่การเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับสูงนั้น เวียดนามจะต้องมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างน้อย 7% ต่อปี ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้สูงมาก ขณะที่กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามระบุในรายงานที่แจ้งต่อสภานิติบัญญัติปลายปีที่แล้วว่า เศรษฐกิจเวียดนามมีอัตราการเติบโตปีละ 5.88% ในช่วง 2554-2558 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553
แหล่งที่มา bangkokbiznews.com
เวียดนามรณรงค์เพื่อชิงที่นั่งในคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ
เวียดนามเริ่มต้นรณรงค์การเสนอชื่ออาจารย์ชาวเวียดนามผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อเข้าชิงที่นั่งในคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ (UN)
คณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศ ก่อตั้งโดยสมัชชาสหประชาชาติในปี 1948 เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างก้าวหน้าของกฎหมายระหว่างประเทศ และการจัดทำกฎหมายเพื่อนำไปสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของหลักการและระบบกฎหมายระหว่างประเทศ ภารกิจสำคัญจะมีการประชุมเพื่อยกร่างกฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งสนธิสัญญาระหว่างปะรเทศต่างๆ เพื่อเป็นกุญแจนำไปสู่ความเป็นระเบียบของกฎหมายระหว่างระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ปี 1958
คณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศประกอบด้วยสมาชิก 34 คน ได้รับจากเลือกตั้งทุกๆ 5 ปีจากที่ประชุมสมัชาสหประชาชาติ ซึ่งเลือกตั้งจากรายชื่อที่เสนอโดยรัฐบาลซึ่งเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ สมาชิกของคณะกรรมาธิการต้องมีคุณสมบัติเชี่ยวชาญทั้งด้านหลักการและการปฏิบัติเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนสาขากฎหมายอื่นๆ สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกสามารถมีสมาชิกได้ทั้งหมด 7 ที่นั่ง สมาชิก 2 คนในคณะกรรมาธิการอาจเป็นคนสัญชาติเดัยวกันก็ได้
เวียดนามนั้นเสนอชื่อรศ. Nguyen Hong Thao เพื่อชิงที่นั่งในคณะกรรมาธิการฯ ช่วงระหว่างปี 2016-2020 ทั้งนี้การรณรงค์ได้เริ่มขึ้นในเดือนนี้เมื่อเอกอัครราชทูตถาวรของเวียดนามประจำสหประชาชาติ องค์การค้าโลก และหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นๆ ในเจนีวาเริ่มส่งจดหมายทางการทูตเพื่อแนะนำตัวเขาต่อผู้แทนรัฐอื่นๆ ในสหประชาชาติ ขณะที่ผู้แข่งขันจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นมาจาก 6 ประเทศคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ไทยและอินโดนีเซีย
สำหรับ Nguyen Hong Thao เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งมีฐานมาจากนักวิชาการ และมีตำแหน่งเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ชายแดน ตัวแทนคณะเจรจาด้านสนธิสัญญาชายแดนระหว่างเวียดนามกับประเทศเพื่อนบ้าน และที่ปรึกษาการร่างกฎหมายทางทะเลของเวียดนามในปี 2012 นอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์ด้านการระหว่างประเทศมากว่า 40 ปี รวมทั้งเป็นเอกอัครราชทูตคูเวตตั้งแต่ปี 2014
แหล่งที่มา tuoitrenews.vn
ชาวเวียนนามรวมตัวรำลึกเหตุการณ์สงครามจีนกับเวียดนาม
ชาวเวียดนามมากกว่า 100 คน รวมตัวกันในกรุงฮานอยเมื่อวันที่ 17 ก.พ. เพื่อร่วมรำลึกวันครบรอบการเริ่มต้นของสงครามชายแดนกับจีน ซึ่งเมื่อ 37 ปีก่อน จีนส่งทหารบุกมาทางเหนือของเวียดนามเพื่อที่จะ “สั่งสอนบทเรียนให้แก่เวียดนาม” จากการขับไล่เขมรแดงที่ปักกิ่งให้การสนับสนุนในกัมพูชา และจีนได้ถอนกำลังออกหลังจากผ่านไป 1 เดือน
ชาวเวียดนามร่วมกันจุดธูป วางดอกไม้ และพวงมาลาที่อนุสาวรีย์กษัตริย์ลี้ท้ายโต๋ ในพิธีเฉลิมฉลองที่กินเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พวกเขาร้องตะโกนต่อต้านผู้รุกราน และกล่าวถึงฮว่างซา เจื่องซา ซึ่งเป็นคำที่เวียดนามใช้เรียกหมู่เกาะสแปรตลีย์ และพาราเซล ในทะเลจีนใต้ พวกเขายังตัดพ้อต่อพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และรัฐบาลมักจัดงานฉลองชัยเหนือฝรั่งเศส และสหรัฐฯ แต่พวกเขาดูเหมือนจะลืมเกี่ยวกับสงครามชายแดนกับจีน
ปัจจุบันจีนในเวลานี้เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม แต่ความสัมพันธ์ตกต่ำลงหลังจีนเคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าใกล้หมู่เกาะพาราเซล ในเดือน พ.ค.2557 นับแต่นั้น สองประเทศพยายามที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ด้วยการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง แต่ความตึงเครียดยังคงมีอยู่เหนือหมู่เกาะดังกล่าว
แหล่งที่มา manager.co.th