ประธานาธิบดีเวียดนามเดินทางเยือนชาติแอฟริกาและอิหร่าน
ประธานาธิบดีเจือง เติ๊น ซาง พร้อมภริยาและคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนาม เดินทางเยือนประเทศในทวีปแอฟริกาและอิหร่านช่วงระหว่าง 9-15 มีนาคมนี้ ถือเป็นการขยายความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคแอฟริกาและเอเชียตะวันตก
ผู้นำเวียดนามได้เริ่มทางเยือนแทนซาเนียอย่างเป็นทางการเป็นประเทศแรก ในระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม ตามคำเชิญของประธานาธิบดีประเทศแทนซาเนีย ในโอกาสนี้ผู้นำเวียดนามได้หารือกับประธานาธิบดีแทนซาเนียและเข้าร่วมประชุมในฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม–แทนซาเนีย
ผู้นำทั้งสองท่านได้หารือถึงมาตรการขยายความร่วมมือทวิภาคีและแก้ปัญหาระหว่างประเทศร่วมกัน ในด้านการค้า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะขยายการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรกลและอุปกรณ์การเกษตร ทั้งนี้ เวียดนามพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมเพื่ออำนวยความสะดวกให้สินค้าแทนซาเนียเจาะตลาดอาเซียนและบรรดาประเทศสมาชิก FTA ที่เวียดนามให้ภาคียานุวัติ
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเวียดนามหวังว่าแทนซาเนียจะอำนวยความสะดวกให้สินค้าเวียดนามเจาะตลาดแทนซาเนียและบรรดาประเทศแอฟริกาตะวันออกและประชาคมพัฒนาภาคใต้แอฟริกา นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้เห็นพ้องกันว่า แนวโน้มสันติภาพและเสถียรภาพยังคงเป็นแนวทางหลักในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นทุกประเทศต้องพยายามมีส่วนร่วมในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของโลกเอาไว้
จากนั้น ในบ่ายวันที่ 11 มีนาคม ประธานาธิบดีเจืองได้เดินทางต่อเพื่อเยือนประเทศโมซัมบิก โดยได้หารือกับนายฟิลิเป ฮาซินโต เอ็นยูซี (Filipe Jacinto Nyusi) ประธานาธิบดีโมซัมบิก ทั้งสองเห็นพ้องกันว่าจะขยายการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง การประสานงานและสนับสนุนกันบนเวทีและองค์การระหว่างประเทศ พร้อมทั้งหารือเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ
เวียดนามและโมซัมบิกยืนยันว่าจะพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 และเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อๆ ไป นอกจากนี้ โมซัมบิกยังหวังว่าเวียดนามจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาทำงานในสถาบันวิจัยเกี่ยวกับสัตว์น้ำและช่วยโมซัมบิกสร้างสรรค์รูปแบบการเพาะเลี้ยงปลาในกระชังบนทะเลซึ่งเวียดนามมีประสบการณ์สูง พร้อมผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามในด้านการเดินเรือและการขนส่งทางทะเลที่เป็นจุดแข็งของเวียดนาม
อนึ่ง ทั้งสองฝ่ายยังได้เห็นพ้องกันที่จะประสานงานในการเจรจาและลงนามในข้อตกลงปกป้องข้อมูลลับและข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนอีกด้วย
ในวันที่ 13 มีนาคม ประธานาธิบดีเวียดนามเดินทางเยือนอิหร่านอย่างเป็นทางการโดยจะใช้เวลารวม 3 วัน ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศจะหารือในแนวทางการผลักดันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าทวิภาคี โดยเฉพาะในด้านที่สำคัญๆ เช่น การเงินการธนาคาร ปิโตรเลี่ยม ตลอดจนหารือปัญหาระหว่างประเทศที่ต่างให้ความสนใจร่วมกัน
แหล่งที่มา: vovworld.vn
ทางการเวียดนามสั่งรับมือปัญหาน้ำทะเลรุกเข้าเขตที่ราบแม่น้ำโขง
หลายพื้นที่ของสามเหลื่ยมปากแม่น้ำโขงในเวียดนามเริ่มประสบกับปัญหาน้ำทะเลรุกล้ำในเขตที่ราบซึ่งเป็นเขตเพาะปลูกอันเนื่องมาจากปัญหาภัยแล้ง ทางการจึงสั่งการให้หามาตรการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น
ทางการของจังหวัดต่างๆ ในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตรวจสอบปริมาณเกลือที่ประตูน้ำทุกวันเพื่อพิจารณาระดับน้ำเค็ม หากมีเกลือเกินปริมาณร้อยละ 0.2 จะสั่งการให้ปิดประตูน้ำทันที ทั้งนี้เมื่อถึงฤดูแล้วน้ำทะเลจะรุกเข้ามาในพื้นที่การเพาะปลูก โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวในที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีของเวียดนามได้สั่งการให้มีมาตรการเร่งด่วนเพื่อรับมือกับปัญหาน้ำทะเลรุกล้ำพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง โดยเน้นย้ำความสำคัญต่อการเน้นค้ำประกันชีวิตความเป็นอยู่ของประชนชน ตรวจสอบและเกาะติดจำนวนครอบครัวขาดแคลนอาหารและน้ำประปา โดยเฉพาะครอบครับยากจน ครอบครัวที่อยู่ในเป้านโยบายและครอบครัวของชนเผ่าเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที่ ให้ปฏิบัติมาตรการที่เร่งด่วนให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของแต่ละท้องถิ่นเพื่อเป็นฝ่ายรุกในการรับมือกับปัญหาน้ำทะเลซึม ตลอดจนใช้ระบบชลประทานเพื่อควบคุมเขตที่ถูกน้ำทะเลซึม ลดความเสียหายให้แก่พื้นที่ปลูกพืชและเพาะเลี่ยงสัตว์น้ำให้เหลือน้อยที่สุด
แหล่งที่มา: vietnamnews.vn