โอบามาเยือนเวียดนามกระชับความสัมพันธ์รอบด้าน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐอเมริกาเดินทางเยือนเวียดนามครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคมที่ผ่านมา บรรลุการเจรจาหัวข้อสำคัญ พร้อมขยายความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนแบบครอบคลุม
ประธานาธิบดีโอบามาได้หารือกับประธานาธิบดีเจิ่น ได กว่าง ของเวียดนาม โดยผู้นำสหรัฐประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามซื้อขายอาวุธหนักกับเวียดนาม เพื่อเป็นการฟื้นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พร้อมระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและเวียดนามเป็นปัจจัยสำคัญต่อนโยบายของสหรัฐที่เน้นกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น และความสัมพันธ์แบบเชื่อใจกันจะนำไปสู่ผลประโยชน์ร่วมและการเคารพซึ่งกันและกันในอนาคต อย่างไรก็ตาม การพิจารณาขายอาวุธให้กับเวียดนามขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาสิทธิมนุษยชนของเวียดนาม
ขณะที่ประเด็นความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ทั้งสองฝ่ายมีความกังวลร่วมกันในประเด็นทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะเสรีภาพการเดินเรือ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า จะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพียงแต่ต้องการให้การแก้ปัญหาอยู่บนพื้นฐานตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ด้านนายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยระบุว่า เวียดนามจะแสวงหาแนวทางแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี
ส่วนการหารือประเด็นความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงการลงสัตยาบันในความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) ซึ่งผู้นำเวียดนามกล่าวว่า ข้อตกลง TPP จะมีความสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายยังบรรลุข้อตกลงสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 200 จำนวน 100 ลำ ระหว่างบริษัท โบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติสหรัฐ กับสายการบิน เวียดเจ็ท มูลค่า 1.13 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.03 หมื่นล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งมหาวิทยาลัยฟูลไบรต์เวียดนาม พร้อมทั้งหารือการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางเข้าออกระหว่างสองประเทศ โดยตกลงที่จะให้วีซ่าระยะเวลา 1 ปีให้กับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวของกันและกัน อนึ่ง ผู้นำทั้งสองยังหารือเกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชน โดยผู้นำสหรัฐฯ สนับสนุนการปฏิรูปกฎหมายของเวียดนาม โดยเฉพาะด้านสิทธิมนุษยชน
แหล่งที่มา: posttoday.com และ manager.co.th
นายกฯเวียดนามอนุมัติตั้งนิคมอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยี
นายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามอนุมัติการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยีระดับไฮ-เทคในจังหวัดดงนาย (Đong Nai)ทางตอนใต้ของประเทศ
นิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 207.8 เฮกตาร์ โดยจะประกอบด้วยกิจกรรมการวิจัย การบ่มเพาะ การพัฒนาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีไบโอเทคโนโลยีระดับไฮ-เทค ตลอดจนการฝึกอบรมทรัพยากรบุคคลที่เกี่ยวข้อง
คณะกรรมการประชาชนระดับจังหวัดดงนายจะทำงานร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อดำเนินการด้านกฎหมายระเบียบในการดำเนินงานของนิคมอุตสาหกรรมเพื่อเสนอให้อนุมัติในประเด็นด้านกลไกและนโยบายสำหรับดึงดูดการลงทุน ทั้งนี้จังหวัดดังกล่าวมีความสามารถในด้านการวางแผน การก่อสร้างและการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม รวมไปถึงการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารและการแต่งตั้งหัวหน้าผู้ดูแล
แหล่งที่มา: vir.com.vn