สหรัฐฯ ส่งมอบเรือรบให้ฟิลิปปินส์หลังศาลโลกมีคำตัดสินกรณีพิพาททะเลจีนใต้
สหรัฐอเมริกาส่งมอบเรือรบลำสุดท้ายให้ฟิลิปปินส์ในสัปดาห์นี้ ( 21 ก.ค.) หลังจากศาลโลกตัดสินให้ฟิลิปปินส์ชนะคดีข้อพิพาททะเลจีนใต้ได้เพียงไม่กี่วัน
สหรัฐอเมริกาเตรียมส่งมอบเรือ Hamilton-class จำนวน 2 ลำให้กับฟิลิปปินส์ พันธมิตรสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์ได้รับเรือรบ BRP Gregorio Del Pilar ในปี 2554 และ เรือรบ BRP Ramon Alcaraz ในปี 2556 โดยทั้งสองลำเป็นเรือติดอาวุธและนำไปใช้ลาดตระเวนทางทะเล ซึ่งรวมถึงในทะเลจีนใต้ด้วย
หน่วยเฝ้าระวังชายฝั่งของสหรัฐประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า จะมีพิธีส่งมอบเรือในวันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม ที่หน่วยเฝ้าระวังชายฝั่งที่แคลิฟอร์เนีย
เรือรบที่ปลดประจำการแล้วนั้นรู้จักกันในชื่อ Boutwell จะถูกส่งมอบให้เป็นเรือรบฟิลิปปินส์ชื่อว่า BRP Andres Bonifacio เรือลำนี้ถูกใช้งานมาแล้ว 50 ปีก่อนที่จะถูกปลดประจำการจากกองทัพสหรัฐเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
พิธีส่งมอบเรือจัดขึ้น 1 สัปดาห์หลังจากที่ศาลโลกมีคำตัดสินข้อพิพาททะเลจีนใต้เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2559
สำหรับประเด็นขัดแย้งระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนในทะเลจีนใต้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ปฏิเสธที่จะร่วมเจรจาแบบทวิภาคีกับจีน เนื่องจากรับไม่ได้ที่ฝ่ายจีนยื่นเงื่อนไขห้ามพูดถึงคำพิพากษาของศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่ปฏิเสธการอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนเกือบทั้งหมด
นายเปอร์เฟ็คโต ยาซาย รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า ได้พูดคุยนอกรอบกับ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ระหว่างเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรปที่มองโกเลียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าเรื่องคำตัดสินของศาลกรุงเฮกจะเป็นประเด็นที่ฝ่ายจีนไม่ต้องการให้พูดถึง
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนยืนยันอย่างแข็งกร้าวว่าไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวร
นายยาซายกล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนเสนอให้เปิดเจรจาแบบทวิภาคี “ในประเด็นที่นอกเหนือ หรือไม่ต้องคำนึงถึงคำพิพากษาของศาลอนุญาโตตุลาการ” ซึ่งตนได้กล่าวปฏิเสธ เพราะการทำเช่นนั้นไม่เป็นผลดีต่อฟิลิปปินส์
แหล่งที่มา: thediplomat.com และ manager.co.th
ผู้นำฟิลิปปินส์ประกาศหยุดยิงกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ พร้อมเดินหน้าเจรจาสันติภาพที่นอร์เวย์
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เตของฟิลิปปินส์มีสุนทรพจน์แห่งชาติเป็นครั้งแรกต่อรัฐสภาโดยประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวต่อกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์ โดยกล่าวว่า เป็นฝันของตนที่จะยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธหลังจากดำเนินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ
ในสุนทรพจน์ดังกล่าว เขายังกระตุ้นให้ฝ่ายกบฏตอบสนองต่อคำประกาศดังกล่าว ตามที่เขาได้วางรากฐานสำหรับเจรจาสันติภาพที่จะเริ่มขึ้นในนอร์เวย์เดือนหน้า
การก่อกบฏคอมมิวนิสต์ได้คร่าชีวิตคนไปแล้วราว 30,000 คนนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 เป็นต้นมา กลุ่ม New People’s Army ซึ่งเป็นฝ่ายติดอาวุธของกบฏคอมมิวนิสต์นั้น คาดกันว่ามีนักรบเหลืออยู่ไม่ถึง 4,000 คน ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 26,000 คนในช่วงทศวรรษ 1980 กลุ่มดังกล่าวยังคงได้รับการสนับสนุนในหมู่คนยากคนจนในพื้นที่ทุรกันดารและนักรบของพวกเขามักสังหารกองกำลังความมั่นคงรวมทั้งขูดรีดเงินจากธุรกิจท้องถิ่นอยู่เป็นประจำ
ประธานาธิบดีคนก่อนได้รื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพหลังจากเข้ารับตำแหน่งในปี 2553 แต่ทว่ามีการเลื่อนออกไปโดยกล่าวหาว่า ฝ่ายกบฏว่าไม่มีความจริงใจในการหาทางออกทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม การปะทะกันระหว่างทหารและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในฟิลิปปินส์ยังคงเกิดเสมอท่ามกลางความพยายามในการสร้างสันติภาพ เมื่อเร็วๆ ได้เกิดการปะทะกันระหว่างทหารและกลุ่มกองโจรซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มนักต่อสู้อิสลามเพื่ออิสรภาพบังซาโมโรหรือ Bangsamoro Islamic Freedom Fighters (BIFF) ในมากินดาเนา โดยมีทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นามและกลุ่มกองโจรเสียชีวิต 2 คน
แหล่งที่มา: philstar.com และ manager.co.th