อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ “ฟิเดล รามอส” เยือนฮ่องกงเพื่อปรับสัมพันธ์กับจีน
อดีตประธานาธิบดีฟิเดล รามอสของฟิลิปปินส์ ได้เดินทางเยือนฮ่องกง เขตปกครองพิเศษของจีน 5 วัน เพื่อพบปะกับเพื่อนเก่าและรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับจีนที่ยังไม่ราบรื่นจากปัญหาพิพาททะเลจีนใต้ หลังศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ตัดสินให้ฟิลิปปินส์ชนะคดีคัดค้านการอ้างสิทธิครอบครองดินแดนทะเลจีนใต้ของจีน
โฆษกของประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต กล่าวว่า นายรามอสเป็น “ทูตพิเศษ” ของผู้นำฟิลิปปินส์เพื่อหารือกับฝ่ายจีน โดยการไปเยือนฮ่องกงในครั้งนี้จะเป็นการปูทางสู่การเจรจาทางการทูตในอนาคต
อย่างไรก็ดี นายรามอสระบุว่า นี่ไม่ใช่ภารกิจของตนและไม่ได้เป็นผู้ยกประเด็นพิพาททะเลจีนใต้ขึ้นหารือ ภารกิจของตนคือฟื้นสัมพันธ์กับจีน โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองชาติจะจัดหารืออย่างเป็นทางการ ส่วนตนเองนั้นมีกำหนดพบปะกับเพื่อนเก่าซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็นใครบ้าง
ด้านสำนักข่าวซินหัวของจีนระบุว่า การมาเยือนของนายรามอสถือเป็นความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมครั้งแรกของทั้งสองฝ่ายเพื่อผูกสัมพันธ์เพื่อแก้ปัญหาขัดแย้งดังกล่าว
แหล่งที่มา: thairath.co.th
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเยือนฟิลิปปินส์ เน้นย้ำความจำเป็นในการปกป้องสิทธิมนุษยชน
นายจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ระหว่างวันที่ 26-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อสานความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดและหลายระดับกับฟิลิปปินส์ภายใต้ประธานาธิบดีคนใหม่นายโรดริโก ดูแตร์เตที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งไม่นานนี้โดยมีการหารือกันในวาระกว้างมากขึ้น (broader agenda)
การพบปะกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐและผู้นำฟิลิปปินส์ ณ ทำเนียบมาลากันยัง ได้หารือกันถึงปัญหาข้อพิพาททะเลจีนใต้ ซึ่งทางสหรัฐไม่ต้องการอยู่ข้างฝ่ายใดๆ ในการอ้างสิทธิเหนือดินแดนทะเลจีนใต้ แต่ต้องการให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ สนับสนุนให้มีการเจรจาและหลีกเลี่ยงความตึงเครียดที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังหารือกันถึงการสนับสนุนของสหรัฐต่อการต่อต้านการก่อการร้ายของฟิลิปปินส์ตลอดจนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ
ขณะที่ประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นประเด็นหารือที่นายจอห์น เคอร์รี่เน้นย้ำว่า จำเป็นที่จะต้องปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยได้ย้ำเตือนรัฐบาลดูแตร์เตถึงการเคารพสิทธิมนุษยชน อันเป็นข้อกังวลของสหรัฐ หลังจากที่รัฐบาลดูแตร์เตมีนโยบายสงครามต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดจนนำไปสู่การสังหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเกือบ 300 คน
ขณะที่เมื่อวันอังคารที่ 9 สิงหาคม ทางสหรัฐก็ได้มีข้อกังวลถึงฟิลิปปินส์เกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎหมายและหลักการสิทธิมนุษยชนในช่วงที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าตัดตอนบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดก่อนที่จำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
แหล่งที่มา: philstar.com และ thejakartapost.com
ฟิลิปปินส์เตรียมเปลี่ยนเป็นระบอบสหพันธรัฐ
ประธานรัฐสภาฟิลิปปินส์เผย ฟิลิปปินส์กำลังเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสาธารณรัฐเป็นสหพันธรัฐ ภายในปี 2565 ทั้งนี้ เป็นความพยายามของนายดูแตร์เต ซึ่งใช้นโยบายสหพันธรัฐเพื่อเปลี่ยนรัฐรวมศูนย์ไปสู่การถ่ายโอนอำนาจให้จังหวัดต่างๆ ที่ยากจนและขาดการเหลียวแล และกระจายความมั่งคั่งอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงในการหาเสียงจนได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
การเปลี่ยนแปลงเป็นสหพันธรัฐจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ตกลงกับบรรดาผู้นำของสภาคองเกรส เพื่อจัดตั้งคณะกรรมาธิการดูแลด้านการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ภายใต้ข้อเสนอนี้ จะมีการก่อตั้งมลรัฐประมาณ 11 – 12 มลรัฐ รวบรวมจังหวัดที่ร่ำรวยและยากจน กลายเป็นเขตปกครองตนเองที่มีอำนาจมากขึ้น