บรูไนสนใจซื้อข้าวจากลาว
นายเปฮิน ลิม จ๊อก เซ็ง (Pehin Lim Jock Seng) รัฐมนตรีต่างประเทศและการค้าของบรูไนกล่าวแสดงความสนใจซื้อข้าวจากลาว ระหว่างการพบปะกับนางเข็มมะนี พลเสนา รัฐมนตรีอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของลาว ในระหว่างการประชุม 2 ฝ่ายในช่วงที่ลาวได้จัดการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่ 48 ที่เวียงจันทน์
ลาวเป็นประเทศส่งออกข้าวสำคัญประเทศหนึ่งของอาเซียน ส่งออกปีละ 300,000 – 400,000 ตันต่อปี โดยส่งข้าวไปขายเวียดนาม จีน และบางประเทศในยุโรปอาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศสและเบลเยียม
ปัญหาสำคัญของการผลิตข้าวในลาวขณะนี้คือชาวนาส่วนใหญ่ปลูกข้าวเพื่อการบริโภคภายในครอบครัวมากกว่าจะปลูกขายและไม่นิยมนำระบบการปลูกข้าวสมัยใหม่มาใช้ ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการกระตุ้นให้ชาวนาปลูกข้าวมากขึ้นเพื่อเพิ่มการส่งออก
กระทรวงเกษตรและป่าไม้ ได้ร่วมร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ กระตุ้นให้ภาคเอกชนของลาวร่วมกันพัฒนาคุณภาพข้าวโดยทางการจะช่วยเหลือเรื่องการตลาดเพื่อแก้ปัญหาข้าวส่งออกได้น้อย นอกจากการให้เอกชนช่วยพัฒนาคุณภาพข้าวเพื่อการส่งออกแล้วรัฐบาลยังได้ทำสัญญาการผลิตข้าวร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านคือไทย เวียดนามและจีนเพื่อพัฒนาข้าวสำหรับการส่งออกโดยคาดว่าลาวจะสามารถส่งออกข้าวไปประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้นจากการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งทำให้กำแพงภาษีหมดไป
แหล่งที่มา: thansettakij.com
บรูไนย้ำต่อต้านการก่อการร้ายข้ามพรมแดน
บรูไนเน้นย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและแบ่งปันข้อมูลกับประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและกิจกรรมของผู้ต้องสงสัยและกลุ่มก่อการร้ายจากต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาและผ่านประเทศบรูไน
จากการเปิดเผยของดาโต๊ะ อาบู บาการ์ (Abu Bakar) รัฐมนตรีช่วยสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ว่าบรูไนจะไม่ใช่ประเทศเป้าหมายการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายโดยตรง กระนั้นก็ตาม หน่วยงานด้านความมั่นคงของบรูไนยังคงระแวดระวังสิ่งต่างๆ ที่กลุ่มก่อการร้ายสามารถใช้ประโยชน์ อย่างเช่น การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอย่างง่ายดาย ซึ่งสามารถใช้เป็นช่องทางการโฆษณาชวนเชื่อและการก่อกวนได้
รัฐมนตรีท่านนี้ได้กล่าวเสริมถึงการประชุมนานาชาติว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับความเสี่ยงในการหาเงินทุนสำหรับก่อการร้ายยังคงมีในระดับต่ำ แต่ก็ยังคงมีสถานการณ์ที่กลุ่มก่อการร้ายสามารถใช้ประโยชน์ เช่น การโอนเงินหรือจัดตั้งกองทุนในนามขององค์กรการกุศลหรือการบริจาคได้
สำหรับการประชุมนั้นมีแนวคิดเรื่อง “การต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายข้ามพรมแดน” (Countering Cross-Border Movement of Terrorism) กิจกรรมหลักเป็นการหารือเกี่ยวกับการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายข้ามพรมแดน และการลดกระแสหัวรุนแรงและผู้ก่อการร้ายจากต่างประเทศ ที่ประชุมเห็นว่า การก่อการร้ายเป็นปรากฏการณ์ข้ามชาติที่มีมากขึ้นซึ่งไม่มีขอบเขตพรมแดน
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นความจำเป็นที่จะส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายและการจัดการความร่วมมือชายแดนในการต่อต้านขบวนการก่อการร้ายข้ามพรมแดน ให้สอดคล้องกับแนวทางในกฎบัตรสหประชาชาติและเคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
แหล่งที่มา: borneobulletin.com.bn