กัมพูชาทำแอปฯ หวังสร้างความเข้าใจ ปวศ.เขมรแดงให้เยาวชน
กัมพูชาจัดทำแอปพลิเคชันชื่อว่า “Khmer Rouge History” เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเขมรแดงให้แก่เยาวชน
กระทรวงศึกษาธิการของกัมพูชา และ Bophana Audiovisual Resource Center ร่วมกันจัดทำแอปพลิเคชันชื่อว่า “Khmer Rouge History” เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเขมรแดง (Khmer Rouge) โดยมีวัตถุประสงค์ในการบอกเล่าว่าเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวเคยเกิดขึ้นจริงในสมัยพล พต (Pol Pot) ช่วงปี 2500
ที่ผ่านมา การเรียนการสอนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นไปอย่างจำกัด ส่งผลให้คนรุ่นหลังที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นนัก แอปพลิเคชันจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เยาวชนคนรุ่นหลังยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยให้เยาวชนเหล่านั้นก้าวผ่านความเลวร้ายในอตีดเหล่านั้นได้
แอปพลิเคชัน Khmer Rouge History ประกอบด้วย ภาพถ่าย วิดีโอ ภาพวาด และเพลงชวนเชื่อในสมัยนั้น รวมถึงบทความวิชาการจากนักวิจัยรวม 8 บท และมีส่วนย่อยรวม 39 บท ขณะนี้ สามารถดาวน์โหลดฟรีได้แล้วในระบบ Android และคาดว่าจะมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ให้สามารถใช้งานในระบบ iOS ได้
แหล่งที่มา: cambodiadaily.com
กัมพูชาเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส H7N9
กัมพูชาเดินหน้าเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อย H7N9 แม้ปัจจุบันยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
กระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชา แสดงความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 และเป็นสายพันธุ์ย่อยมาจาก H5N1 ที่แพร่ระบาดครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อปี 2556 ทั้งนี้ สายพันธุ์ย่อย H7N9 ไม่สามารถจำกัดวงการแพร่ระบาดได้ และมีแนวโน้มการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าสายพันธุ์ H5N1
Ly Sovann ผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชา กล่าวว่า สัตว์ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ H5N1 ซึ่งพบในเอเชีย ยุโรป และอาฟริกาจะตายลงทันทีและเชื้อไม่สามารถแพร่กระจายต่อได้ ขณะที่ สายพันธุ์ย่อย H7N9 เมื่อติดเชื้อสู่สัตว์แล้วนั้น สายไม่ได้ได้ตายทันทีทำให้สามารถแพร่กระจายต่อไปกระทั่งถึงคนได้ ส่งผลให้ H7N9 ควบคุมการแพร่ระบาดได้ยากกว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่พบการติดเชื้อ H7N9 ในคน แต่กัมพูชาก็จะเดินหน้าป้องกันโดยเฉพาะการไหลผ่านของผู้คนบริเวณสนามบิน
ปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ H7N9 ส่งผลให้ H7N9 ยังเป็นปัญหาทางด้านการสาธารณสุขที่หลายประเทศจะต้องออกมาวางมาตรการในการป้องกันดังเช่น กัมพูชา รวมถึงเวียดนามและลาวด้วย เนื่องจากประเทศดังกล่าวมีการเคลื่อนย้ายของผู้คนและสินค้าระหว่างกัน
แหล่งที่มา: rfa.org