นายชาน เฮง กีปลัดกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์กล่าวในการเปิดประชุม Singapore Healthcare Management Marina ว่าสิงคโปร์ต้องพัฒนาเทคโนโลยีด้านสุขภาพเพื่อนำมาปรับปรุงบริการของโรงพยาบาลต่อผู้ป่วย
นายชานยังกล่าวว่าการดูแลสุขภาพที่ดีนั้น ไม่ใช่เรื่องของการรักษาด้วยยาตัวใหม่ล่าสุด หรือแม้แต่การที่รัฐ หรือผู้เชี่ยวชาญเข้าไปแทรกแซงดูแลผู้ป่วย เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้ป่วยต้องการมากที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ป่วยบางคนอาจเป็นเรื่องของการได้ใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน กลับไปทำงาน เรียนหนังสือ หรือเพลิดเพลินกับอาหารหรือกิจกรรมที่พวกเขาชื่นชอบ
ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลสิงคโปร์ (SGH) ได้ทำการศึกษาข้อมูลเป็นเวลาหลายปีในเรื่องของการผ่าตัดเปลี่ยนหัวเข่า ด้วยข้อมูลดังกล่าวทำให้สามารถติดตามและช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยแต่ละรายได้ดีขึ้นหลังการผ่าตัด และได้ขยายการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวไปยังการผ่าตัดประเภทอื่น ๆ เช่น กระดูกสันหลัง และข้อเท้า นายชานกล่าวว่าหากสามารถช่วยผู้ป่วยให้บรรลุเป้าหมายได้ ก็เท่ากับว่าทางรัฐก็ได้จัดสรรการดูแลสุขภาพที่ดีให้พวกเขาแล้ว แม้ว่าจะเป็นการรักษาแบบพื้นฐานก็ตาม เขายังเสริมว่าบางประเทศมีทรัพยาการทางการแพทย์ที่โดดเด่น ยอดเยี่ยม แต่การดูแลดังกล่าวมีไว้สำหรับผู้ป่วยที่มีสิทธิพิเศษจำนวนน้อยเท่านั้น สำหรับการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างแท้จริง ผู้ที่ได้ประโยชน์นั้นควรเป็นประชาชนทุกคน
บนหลักการพื้นฐานว่าทั้งรัฐและผู้ป่วยจะต้องไม่จ่ายมากเกินไป นี่คือเหตุผลที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังมองหาการรักษาวิธีอื่น ๆ ด้วยเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ทั้งนี้นายชานเน้นย้ำว่า การตรวจสอบ และเผยแพร่แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด จะช่วยลดทางเลือกที่ไม่จำเป็น และลดความไร้ประสิทธิภาพของการรักษาได้
โดยสิงคโปร์ได้เริ่มใช้เทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ในแต่ละช่วงเวลาเพื่อระบุผู้วิธีการที่ดีที่สุด โรงพยาบาลหลายแห่งพบว่าผู้ป่วยที่มีแนวโน้มที่จะเข้ารับการรักษาบ่อย ผู้ป่วยที่ต้องการตรวจเพื่อป้องกันโรค หรือผู้ป่วยที่มักตรวจหาความเสี่ยงของโรคก่อนนั้นมีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาในโรงพยาบาล นายชานกล่าวปิดท้ายว่าด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้สามารถรวบรวม และผสมผสานข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพ ข้อมูลทางสังคมและเศรษฐกิจที่หลากหลาย และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้
ที่มา straitstimes.com
หน่วยงานด้านการขนส่งทางบก (Land Transport Authority – LTA) สิงคโปร์เริ่มเรียกประกวดราคาในการพัฒนาบริการรถโดยสารตามความต้องการของผู้โดยสารผ่านการใช้โทรศัพท์มือถือ และการทดลองให้บริการจะเริ่มต้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2561
LTA กล่าวในการแถลงข่าวว่าบริการนี้จะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเลือกจุดขึ้น-ลงรถใด ๆ ก็ได้ภายในพื้นที่ให้บริการแทนการใช้ตารางเวลา หรือเส้นทางการเดินรถแบบเดิม โดยเป้าหมายสำคัญคือการจัดบริการรถโดยสารที่ใช้เวลารอน้อยลง
สำหรับพื้นที่นำร่องทดลองให้บริการนั้นสามพื้นที่ LTA ระบุว่าเป็นไปได้ที่จะเลือก Joo koon ทางตะวันออก (สำหรับการให้บริการรถโดยสารสาย 253, 255 และ 257) Punggol ทางเหนือ / ตะวันตก (สำหรับการให้บริการรถโดยสารสาย 84 และ 382) และShenton Way Marina ทางใต้ (สำหรับการให้บริการรถโดยสารสาย 400 และ 402) สามพื้นที่นี้ถูกระบุเป็นพื้นที่นำร่องเพราะว่าเป็นพื้นที่ที่มีการใช้บริการต่ำในช่วงเวลาที่ไม่ได้เป็นเวลาเร่งด่วน แทนที่จะสามารถลงได้เฉพาะที่ป้ายรถเมล์ตามเส้นทางที่กำหนด
นายเหยา เต๊กกวนผู้อำนวยการกลุ่มการขนส่งสาธารณะประจำ LTA เสริมว่ากล่าวว่าการประกวดราคาจะช่วยให้หน่วยงานได้สำรวจ และวิเคราะห์ข้อมูลผ่านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในโทรศัพท์มือถือ โดยผู้โดยสารจะสามารถขอให้ลงที่จุดใด ๆ ในพื้นที่ปฏิบัติการได้
ก่อนที่จะมีการทดลองใช้จริง LTA จะทำงานร่วมกับผู้ประกอบการด้านรถโดยสาร และชุมชน เพื่อที่จะแน่ใจได้ว่าผู้ที่อยู่อาศัย และผู้โดยสารจะเข้าใจวิธีการใช้บริการ อย่างไรก็ตามแม้จะมีการให้บริการรถโดยสารตวามความต้องการของผู้โดยสารแล้ว การเดินรถที่แบบเดิมก็ยังให้บริการอยู่ แต่จะลดความถี่ลงเพื่อให้บริการกับผู้โดยสารที่ยังไม่ชินกับการให้บริการแบบใหม่
ที่มา channelnewasia.com
