อินโดนีเซียกำลังได้รับการสนับสนุนให้มีบทบาทสำคัญในการหาทางออกที่สงบสุขสำหรับวิกฤตคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่เกาหลีเหนือเริ่มกลายเป็นรัฐที่เน้นการใช้อาวุธนิวเคลียร์มากขึ้น
นายจิน พาร์คตัวแทนจาก Asia Future Institute (AFI) กรุงโซล ได้กล่าวในระหว่างการหารือที่ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศ (CSIS)ว่าอินโดนีเซียอยู่ในฐานะที่สามารถโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือละทิ้งแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันซึ่งไม่นำไปสู่การพัฒนาสันติภาพและความมั่งคั่งในภูมิภาค
เขาเสริมว่าอินโดนีเซียเป็นประเทศที่รักสันติภาพซึ่งเคารพในระบอบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน จะสามารถมีบทบาทเชิงบวกในการนำสถานการณ์สู่สภาพที่มั่นคงและสงบสุขมากขึ้น เขาเชื่อว่าอินโดนีเซียจะมีบทบาทอย่างเชิงบวกผ่านการมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับเกาหลีใต้จากการที่ได้ยกระดับความร่วมมือระดับทวิภาคีระหว่างสองประเทศเป็น “ยุทธศาสตร์พิเศษ”
นายมุนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ได้พบกับนายโจโก วิโดโดประธานาธิบดีอินโดนีเซียเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนในฟิลิปปินส์ โดยเกาหลีใต้ต้องการการสนับสนุนจากอินโดนีเซียในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือด้วยการเจรจา
อย่างไรก็ตามทัศนคติของอินโดนีเซียต่อเกาหลีเหนือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเมื่อเร็ว ๆ นี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขยายพอร์ตการลงทุนของเกาหลีใต้ในอินโดนีเซีย ปัจจัยอีกประการหนึ่งคือความเชื่อมั่นของชาวอินโดนีเซียที่เลวร้ายลงต่อเกาหลีเหนือ จากข่าวการลอบสังหารคิมจุงนัมพี่ชายของผู้นำเกาหลีเหนือในมาเลเซียช่วงต้นปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระตุ้นให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศ จำกัดการค้ากับเกาหลีเหนือ เพื่อบังคับให้ระบบการปกครองของคิมจองอึนขาดเงินตราต่างประเทศ
ทั้งนี้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลียังคงอยู่ในระดับสูง ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าสหรัฐอเมริกาอาจใช้มาตรการทางทหารเพื่อรับมือกับเกาหลีเหนือ และเผชิญความเสี่ยงในการเผชิญหน้ากับรัฐที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ โดยตามรายงานข่าวกรองสหรัฐฯ แจ้งว่าวิถีอาวุธนิวเคลียร์จากกรุงเปียงยางนั้นสามารถโจมตีไปถึงแผ่นดินใหญ่ในสหรัฐฯได้
ที่มา straitstimes.com
