เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา อาเซียนได้เปิดการประชุมภาคประชาสังคมอาเซียน หรืออาเซียนภาคประชาชน 2013 (ACSC/APF 2013) ภายใต้หัวข้อ “อาเซียน: อนาคตของเราร่วมกัน” (ASEAN: Our Future Together) โดยกำหนดจัดระหว่างวันที่ 6-8 เมษายน ที่โรงแรมแอลอาร์อัสมา ถนนเจรูตัน ประเทศบรูไน
โดยการประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันในหมู่ประชาชนของประเทศสมาชิกอาเซียน และสร้างความสามัคคี ความเป็นเอกภาพ และความร่วมมือในหมู่ประชาชนในอาเซียน โดยเจ้าภาพประชุมดังกล่าวคือ สภาสตรีแห่งบรูไนดารุสซาลาม (CWBD) และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทางสังคมในบรูไน การเน้นหนักของเวที ACSC/APF 2013 ของบรูไนในปีนี้อยู่ที่เรื่องการพัฒนา เศรษฐกิจแบบยั่งยืน สิ่งแวดล้อม การคุ้มครองสิทธิสตรีและเยาวชน การทำความเข้าใจประเทศบรูไน
ทางด้านของนายฮาซาร์ อับดุลลาห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เยาวชน และกีฬาเป็นประธานในพิธีเปิด ย้ำว่ารัฐบาลได้สนับสนุนสวัสดิการสังคม และความเท่าเทียมกันทางสังคมการสร้างความตระหนักต่อผู้พิการ ความก้าวหน้าทางสังคม-เศรษฐกิจของสตรี ศักยภาพของเยาวชนและสนับสนุนความเป็นเลิศทางกีฬา
ส่วนนางเด็บบี สโตธาร์ด ชาวมาเลเซีย จากกลุ่ม ALTSEAN Burma กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นวิทยากรหัวข้อ “อาเซียน: อนาคตของเราร่วมกัน” (ASEAN: Our Future Together) ว่าประเทศในอาเซียนต่างมีวัฒนธรรม “ความเกรงใจ” ซึ่งทำให้ไม่ยอมพูดถึงปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในภูมิภาคทั้งยังเรียกร้องให้ภาคประชาสังคมตระหนักต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นทั้งในพม่า รวมทั้งการหายตัวไปของนายสมบัด สมพอน NGO ของลาว หรือการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนชาวไทย
อย่างไรก็ตามในการประชุมภาคประชาสังคมอาเซียนครั้งนี้ผู้แทนจากประเทศอินโดนีเซียได้ประกาศไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เนื่องจากเจ้าภาพไม่ยอมให้ประเทศสมาชิกร่วมจัดหัวข้อประชุม ซึ่งผิดหลักการจัดประชุมก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ เจ้าภาพยังไม่นำประเด็นทางสังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาพูดคุยในที่ประชุม เช่น ไม่มีหัวข้อความหลากหลายทางเพศ ไม่มีการพูดเรื่องประชาธิปไตย และปัญหาความมั่นคงในภูมิภาค โดยเฉพาะกรณีพิพาทชายแดนโดยเฉพาะกรณีทะเลจีนใต้ และปัญหาของขบวนการเรียกร้องเอกราชในพื้นที่ต่างๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แหล่งที่มา: prachatai.com และ bt.com.bn
', 0)// ]]>
