พรรครัฐบาล USDP หนุนแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2008
พรรคสหภาพเอกภาพและการพัฒนา (USDP) ของรัฐบาลพม่าได้ออกมาประกาศสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2008 (2551) โดยยังประกาศหนุนแก้รัฐธรรมในมาตราที่กีดกันนางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศด้วย
มีรายงานว่า ทางคณะกรรมการกลางของพรรค USDP ได้ประชุมหารือกันที่กรุงเนปีดอว์ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยคณะกรรมกลางได้ลงคะแนนโหวตสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญปี 2551 พร้อมทั้งหนุนแก้รัฐธรรมนูญในมาตรา 51 ซึ่งกีดกันไม่ให้นางซูจี ก้าวขึ้นไปเป็นประธานาธิบดีของประเทศ ซึ่งในมาตราดังกล่าวระบุว่า คู่แต่งงานหรือบุตรของประธานาธิบดีจะต้องไม่ถือสัญชาติอื่น ขณะที่นางซูจีแต่งงานกับนาย ไมเคิล อริส ชาวอังกฤษและมีบุตรชาย 2
นอกจากนี้ ทางพรรค USDP ยังสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญอีกหลายมาตราเช่น ให้ผู้ปกครองบริหารรัฐหรือเขตมาจากการเลือกตั้งจากท้องถิ่นแทนการแต่งตั้ง โดยทางพรรค USDP เปิดเผยว่า เตรียมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อในรัฐสภาในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ท่าทีของพรรครัฐบาล USDP ครั้งนี้ สร้างความแปลกใจให้กับพรรค NLD ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทางพรรค NLD มีท่าทีที่จะคว่ำบาตรการเลือกตั้งปี 2015 หากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
แหล่งที่มา: salweennews.org
ญี่ปุ่นประกาศช่วยเหลือพื้นที่ชนกลุ่มน้อยอีก 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำพม่าและมูลนิธินิปปอนเปิดเผยว่า เตรียมให้เงินช่วยเหลืออีก 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับ 5 ปีข้างหน้านี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชนกลุ่มน้อยและในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงคราม โดยเงินดังกล่าวจะนำมาช่วยเหลือในด้านการพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านและสนับสนุนให้เกิดสันติภาพในเขตพื้นที่ชนกลุ่มน้อย
นาย Mikio Numata เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นและนาย Yohei Sasakawa ประธานมูลนิธินิปปอนแถลงข่าวในกรุงย่างกุ้งว่าเตรียมจะให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน ภายหลังจากที่มีการหารือแนวทางการช่วยเหลือร่วมกับรัฐบาลและชนกลุ่มน้อย โดยเงินจะถูกไปใช้ในด้านการช่วยเหลือชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน การพัฒนาอาชีพแก่ชาวบ้าน รวมถึงช่วยเหลือด้านอาหารและยาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ชนกลุ่มน้อย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยว่า เงินช่วยเหลือจะถูกนำไปใช้ในพื้นที่ส่วนไหนและจะดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการประกาศปฎิรูปประเทศจากประธานาธิบดีเต็งเส่ง เมื่อสองปีก่อน ทางมูลนิธินิปปอนได้ให้ความสนใจและเข้ามาทำงานในพม่ามากยิ่งขึ้น และได้ขอที่จะเข้ามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ในพม่า โดยเมื่อปีที่แล้ว ทางมูลนิธินิปปอนยังได้ให้ความช่วยเหลือข้าวสารใน 3 พื้นที่ชนกลุ่มน้อย
“จากการเดินทางไปในพื้นที่ชนกลุ่มน้อย เราได้พบว่า ชาวบ้านต้องทิ้งบ้านเรือนของตัวเอง ไม่มีอาหารและยาเพียงพอ และเด็กๆ ต้องออกจากบ้านโดยไม่มีอาหารเพียงพอที่จะกิน เราเชื่อว่า ทั้งฝ่ายรัฐบาลและชนกลุ่มน้อยจะพอใจกับเงินช่วยเหลือ” นาย Yohei Sasakawa กล่าว
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นกลับมาพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับพม่าอย่างรวดเร็ว หลังนานาชาติยุติคว่ำบาตรต่อพม่า เพื่อสร้างผลประโยชน์ทางเศษฐกิจของญี่ปุ่นในพม่า รวมถึงการสนับสนุนรัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของเต็งเส่ง โดยเมื่อปี 2556 รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกหนี้ค้างชำระกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับพม่า และให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตีละวา ซึ่งอยู่ใกล้กับย่างกุ้ง อีกทั้งญี่ปุ่นให้สัญญาที่จะช่วยเหลือพม่าในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใน ประเทศ
แหล่งที่มา: salweennews.org
