องค์การนิรโทษกรรมสากลเตือน รัฐบาลมาเลเซียอาจใช้กฎหมายใหม่เพื่อละเมิดสิทธิมนุษยชน
องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ออกแถลงการณ์เตือนว่า รัฐบาลมาเลเซียอาจใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เพื่อละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน
กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้อำนาจนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรี ในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ที่ประเมินว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคง นอกจากนี้ยังอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ทันทีโดยไม่ต้องมีหมายค้น
ถึงแม้รัฐบาลมาเลเซียจะชี้แจงว่ากฎหมายความมั่นคงฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อรับมือกับภัยก่อการร้าย แต่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนหลายคน รวมถึงองค์การนิรโทษกรรมสากล ออกมาเตือนให้นานาชาติจับตาการใช้กฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า นายนาจิบ ราซัคอาจใช้กฎหมายดังกล่าวเพื่อกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมือง หลังตัวเขาต้องเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความชอบธรรมและการคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่อง
แหล่งที่มา: cebudailynews.inquirer.net/
3 ชาติอาเซียนขยายความร่วมมือทางทะเล หวังแก้ปัญหาจับตัวประกันในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตกเฉียงใต้
รัฐมนตรีกลาโหมของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ร่วมหารือเกี่ยวกับแนวทางรับมือปัญหาจับตัวประกันโดยกลุ่มก่อการร้ายบริเวณทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นน่านน้ำที่เชื่อมต่อทั้ง 3 ประเทศ
ที่ประชุมตกลงที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกัน โดยให้สิทธิเจ้าหน้าที่แต่ละประเทศในการ “ไล่ตามติดพัน” (hot pursuit) อันหมายถึงการอนุญาตให้เรือของประเทศอื่นๆ สามารถไล่ตามจับกุมเรือของกลุ่มผู้ก่อการร้ายต่อเนื่องเข้ามายังอาณาเขตทางทะเลของประเทศตนได้
ในแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียระบุว่า การให้สิทธิในการไล่ตามติดพันยังครอบคลุมถึงการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดในอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ เช่น การค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติด เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือเกี่ยวกับแนวทางในการลาดตระเวนชายฝั่งบริเวณทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตกเฉียงใต้ร่วมกันอีกด้วย
แหล่งที่มา: wsj.com