การประชุมสัมมนาเรื่อง “การเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม และการวิจัยและพัฒนาในประชาคมอาเซียน”

การประชุมสัมมนา เรื่อง
“การเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม และการวิจัยและพัฒนาในประชาคมอาเซียน”
จัดโดย กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม กระทรวงกลาโหม
ณ ห้องประชุมพินิตประชานาถ ศาลาว่าการกลาโหม
วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557

 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม กระทรวงกลาโหม ได้จัดงานประชุมสัมมนา เรื่อง “การเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม และการวิจัยและพัฒนาในประชาคมอาเซียน” เพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้เรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ การเรียนรู้วัฒนธรรมระหว่างชาติสมาชิกอาเซียน และการพัฒนาทิศทางการวิจัยทางการทหารเพื่อสร้างความมั่นคงร่วมกันระหว่างชาติสมาชิกอาเซียน ให้แก่กำลังพลของกระทรวงกลาโหม และผู้สนใจทั่วไป โดยมี พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี และเป็นองค์ปาฐก

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก กล่าวถึงงานสัมมนาในครั้งนี้ว่า เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล และกระทรวงกลางโหมในการสร้างความตระหนักรู้ และการเตรียมความพร้อม ให้แก่ข้าราขการ และประชาชนทั่วไป ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ภาษาอังกฤษ และการเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศในภูมิภาค ในส่วนของกระทรวงกลาโหมนั้น มีการปรับตัวเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนมาพอสมควร เห็นได้จากการกำหนดนโยบายของกระทรวงฯ ให้ส่งเสริมการเรียนรู้ และการใช้ภาษาอังกฤษ และภาษาเพื่อนบ้านให้แก่กำลังพล โดยมีกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดหลักสูตรฝึกอบรมการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญทางภาษาอังกฤษให้แก่กำลังพล ในการนี้พลเอก นิพัทธ์ เน้นย้ำว่า “ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาราชการ แต่เป็นภาษที่ใช้ในการทำงานของอาเซียน” (Working language of ASEAN) นอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมยังส่งเสริมให้มีการเรียนภาษาอาเซียนระหว่างกำลังพลของไทยและชาติสมาชิกอาเซียน โดยในปัจจุบัน กระทรวงกลาโหม มีข้าราชการในสังกัด ไปเรียนภาษาเพื่อนบ้านที่ประเทศมาเลเซีย เมียนมาร์ และเวียดนามเป็นต้น นอกจากนั้น ปลัดกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึงแนวนโยบายของกระทรวงฯ ในอนาคต ว่ามีความต้องการที่จะเพิ่มจำนวนและโอกาสให้กำลังพลของประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาเรียนในหลักสูตรทางการทหารของไทย ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพต่างๆ และ วิทยาลัยการป้องกันราชอาณาจักร เป็นต้น

พลเอก นิพัทธ์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงกลางโหม ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมเช่นกัน วัฒนธรรมมีความสำคัญ ควบคู่กับภาษา อันจะช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยง (Connectivity) ให้แก่ประชาชนในภูมิภาค โดยไม่จำกัดว่าเป็นทหารหรือพลเรือน การเชื่อมโยงและการเรียนรู้ทางวัฒนธรรม และภาษาถือเป็นกระบวนการสร้างความเชื่อมั่น (Confidence building measure) ที่เป็นรากฐาน ของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยในเรื่องนี้ พลเอก นิพัทธ์ บอกเล่าจากประสบการณ์ว่า การส่งเสริมวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและเพื่อนบ้านที่ได้รับผลตอบรับที่ดีเสมอมา คือการจัดงาน “ทอดผ้าป่า” ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ ปลัดกระทรวงกลางโหม ส่งเสริมและผลักดันตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร

ปลัดกระทรวงกลางโหม ระบุว่าการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างไทยและประเทศในภูมิภาค ยังสามารถส่งเสริมได้จากความร่วมมือทางด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีความมั่นคง ซึ่งในปัจจุบัน กระทรวงกลาโหมมีความร่วมมือกับประเทศอาเซียนในเรื่อง การทดลองและสาธิต เทคโนโลยีทางการทหารอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากความร่วมมือทางความมั่นคงดังกล่าว พลเอก นิพัทธ์  ได้กล่าวทิ่งท้ายว่า บทบาทของกระทรวงกลาโหมมีความตื่นตัว และความจริงจังอย่างยิ่งในเรื่องของการสร้างความร่วมมือทางความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและชาติสมาชิกอาเซียน รวมถึงคู่เจรจานอกกลุ่มอาเซียน หลายปีที่ผ่านมา กระทรวงหลาโหม ให้ความสำคัญกับเวทีการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum – ARF) และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ASEAN Defence Ministers’ Meeting – ADMM) รวมถึงการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ADMM-Plus) โดยมีความร่วมมือที่ครอบคลุมประเด็นความมั่นคงในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ยุทธศาสตร์การจัดการภัยพิบัติ การรักษาความมั่นคงทางทะเล การส่งเสริมและปฎิบัติตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ การส่งเสริงความร่วมมือทางการแพทย์ทางทหาร และการป้องกันการก่อการร้าย เป็นต้น