โอบามาลดคว่ำบาตร ซูจีหนุนสหรัฐฯ เพิ่มลงทุนในเมียนมา
บารัค โอบามาลดระดับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในเมียนมา ขณะที่นางซูจีเสนอให้นักลงทุนสหรัฐฯ เดินทางมาทำธุรกิจในเมียนมา
นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลดระดับความเข้มงวดในการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจต่อเมียนมา หลังการหารือกับนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมาที่ทำเนียบขาว ในช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา
การตัดสินใจของนายโอบามาครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ นับตั้งแต่เมียนมาปฏิรูปการเมืองหลังจากอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ
ขณะเดียวกัน นางซูจีแสดงความเห็นว่า สหรัฐฯ ควรยุติการกีดกันทางการค้าที่เกิดขึ้น เนื่องจากการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างเมียนมาและสหรัฐฯ พร้อมกล่าวสนับสนุนให้ชาวอเมริกันหันมาลงทุนในเมียนมาเพิ่มขึ้น
แหล่งที่มา: aljazeera.com
ปชช.ร้องขอรัฐและกลุ่มติดอาวุธยุติการปะทะกันในคะฉิ่น
ประชาชนชาวเมียนมาจำนวนมากรวมตัวกันเรียกร้องให้ทางการและกลุ่มติดอาวุธยุติการปะทะกัน พร้อมเสนอว่าความรุนแรงไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหา
ประชาชนชาวเมียนมากว่า 10,000 คนรวมตัวกันในรัฐคะฉิ่น เดินหน้าประท้วงเพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐ และกองกำลังอิสรภาพคะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) ยุติการปะทะในบริเวณตอนเหนือของเมียนมา
นายลอนจูน ตู ยอ (Lonejone Tuu Yaw) ผู้นำการเคลื่อนไหวฯ ออกมากล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยความรุนแรง พร้อมเน้นย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่ปัญหาทางการเมืองจะต้องเดินหน้าแก้ไขด้วยวิธีการทางการเมือง
นับตั้งแต่ปี 2554 การปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและกองกำลังอิสรภาพคะฉิ่นส่งผลให้ที่อยู่อาศัยกว่า 10,000 หลังคาเรือน โรงเรียนกว่า 100 แห่ง และศาสนสถานในรัฐคะฉิ่นจำนวนมากถูกทำลายเสียหาย
แหล่งที่มา: rfa.org